กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ เมืองน้ำดำกำชับทุกอำเภอสำรวจเส้นทางน้ำ เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ขณะที่ทหารกองบัญชาการควบคุม กองพลทหารม้าที่ 3 กาฬสินธุ์ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลูกหญ้าแฝกตามลำห้วยนาฮี เพื่อลดการพังทลายของหน้าดินช่วงน้ำหลาก และเฉลิมพระเกียรติในหลวง-ราชินี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลำห้วยนาฮี ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พ.อ.สมบัติ จันดาศรี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุม กองพลทหารม้าที่ 3 จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ท.อวยชัย เอกะกุล รองเสนาธิการกองบัญชาการควบคุม กองพลทหารม้าที่ 3 จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ประภัทรพล พินิจมนตรี หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนกองบัญชาการควบคุม กองพลทหารม้าที่ 3 จ.กาฬสินธุ์
พร้อมกำลังทหารชุดปฏิบัติการพื้นที่เข้าร่วมกับนายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ นายอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายธนเสฏฐ์ ชัยสงครามธนทัต นายกเทศมนตรีเมืองบัวขาว และผู้นำชุมชนร่วมกันปลูกหญ้าแฝกกว่า 40,000 ต้น ตามฝั่งลำห้วยนาฮี
เป็นลำห้วยที่อยู่ในโครงการบูรณาการขุดลอกแหล่งน้ำของกองทัพภาคที่ 2 โดยทหารช่างพัน 202 เพื่อเป็นการลดการพังทลายของหน้าดินในช่วงหน้าฝนและช่วงน้ำหลาก อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙
ขณะที่นายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้กำชับให้นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจเส้นทางน้ำ และติดตามปริมาณน้ำสะสม พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์พร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ตลอด 24 ชั่วโมง
นายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ตั้งคณะกรรมการในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ เพื่อเฝ้าระวัง บริหารจัดการ และติดตามให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยต่างๆ
ทั้งภัยน้ำท่วม ภัยจากดินโคลนถล่ม แม้กระทั่งภัยธรรมชาติที่ทำให้เส้นทางคมนาคมต่างๆ ชำรุดขาดเสียหาย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานร่วมกันเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกและมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ดังนั้นจังหวัดจึงได้กำชับให้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และเกิดอุทกภัย ทั้งอยู่ติดกับแม่น้ำ และพื้นที่ติดเทือกภูพานให้เฝ้าระวังและให้สำรวจติดตามเส้นทางไหลของน้ำ โดยเฉพาะน้ำที่ไหลจากที่สูงลงมายังพื้นที่ต่ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเฝ้าติดตามปริมาณสะสมของน้ำฝนที่ตกลงมาทุกวัน เพื่อที่จะสามารถแจ้งเตือนภัยต่อประชาชน และเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและอุปกรณ์การช่วยเหลือได้ล่วงหน้า หากมีสถานการณ์ฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก
สำหรับพื้นที่ติดลำน้ำชี และลำน้ำปาวนั้น ขณะนี้ได้ให้ทางอำเภอคอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งวางแนวทางการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้จำนวนมากทำให้น้ำใต้ดินเริ่มอิ่มตัวแล้ว
หากมีฝนตกลงมาในพื้นที่อีก ทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องประเมินสถานการณ์และคำนวณปริมาณน้ำ เพื่อที่จะทำการระบายน้ำไม่ให้ท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนประชาชน
อีกทั้งจะต้องวางแนวทางการกักเก็บน้ำ ทั้งแก้มลิง บ่อ และหนองน้ำสาธารณะให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ในการอุปโภค บริโภคต่อไป