ลำปาง - ผู้แทนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ นำคณะรับสรีร่าง “หลวงปู่ครูบาครอง กระเถราจารย์ดังลำปาง” ออกจาก รพ.ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ร่วมไว้อาลัย และขอขมาสรีระเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำศพเคลื่อนไปบำเพ็ญกุศลที่วัดท่ามะแกว๋น เผยมรณภาพมา 2 วัน แต่เหมือนคนนอนหลับปกติ
วันนี้ (11 ก.ค.) นายสืบ ชื่นอารมณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองพระราชพิธีฯ ได้เป็นผู้แทนของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เดินทางมาเป็นประธานในการรับสรีร่างของหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ออกจากโรงพยาบาลลำปาง เมื่อเวลา 09.29 น.ที่ผ่านมา
โดยหลังจากที่นำสรีระหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ออกจากห้องดับจิตแล้ว นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง, คณะแพทย์ผู้เคยให้การรักษา นำพวงดอกไม้มากราบและวางไว้บนสรีระ และจุดธูปสักการะสรีระหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย หลังจากนั้นได้เปิดโอกาสให้ศิษยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือที่มารอกว่า 100 คน นำดอกไม้ธูปเทียนมาร่วมวางหน้าสรีระของหลวงปู่ครูบาครอง เพื่อร่วมขอขมาและร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
จากนั้นได้เคลื่อนสรีระของหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ขึ้นรถของกู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง หรือรถกู้ชีพ 1669 ออกจากโรงพยาบาลลำปาง โดยมีรถของ มทบ.32 นำหน้าขบวน เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดท่ามะแกว๋น ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง และในเวลา 15.00 น.วันนี้ พล.อ.สาธิต พิธรัตน์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก จะเดินทางมาเป็นประธาน อัญเชิญนำสรงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทานหน้าหีบศพ จากนั้นจะมีการจัดพิธีสวดอภิธรรมทุกคืนตั้งแต่ 11 ก.ค. ถึง 2 ส.ค. 2559
ทั้งนี้ หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ได้มรณภาพอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลลำปาง หลังอาพาธด้วยอาการมีลิ่มเลือดอุดตันที่สมอง และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลลำปางมาตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2559 แพทย์ได้ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดและต้องเฝ้าดูอาการวันต่อวันอยู่ภายในห้องไอซียูมาโดยตลอด จนกระทั่งเวลา 02.25 น.วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา หลวงปู่ครองได้มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 96 ปี 11 เดือน 77 พรรษา แต่แม้เวลาผ่านไปกว่าสองวันสรีระของหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ดูเหมือนกับคนที่นอนหลับปกติ
สำหรับประวัติของหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง ถือเป็นพระเถราจารย์ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือจำนวนมาก โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ภาคเหนือล้านนา หลวงปู่เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2463 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 4 คน บิดาชื่อพ่อซาว มารดาชื่อแม่น้อย บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 16 ปี โดยพระครูพุทธวงศ์ (ก๋วน) วัดแม่ปะหลวง ผู้มีศักดิ์เป็น “ตุ๊ลุง” เป็นผู้ให้การบรรพชา เมื่ออายุ 20 ปีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครูรักขิตคุณ (ต๋า) วัดอุมลอง เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงแห่ง อ.เถิน จ.ลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “ขตฺติโย” จำพรรษา ณ วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ. ลำปาง
“หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย” ได้เริ่มศึกษาอักขระล้านนา และศึกษาการปฏิบัติเบื้องต้นกับ “ตุ๊ลุง” ของท่าน ต่อมาเมื่อบวชเป็นพระได้ศึกษากับพระอุปัชฌาย์ และหนานผู้ทรงวิทยาคุณหลายคน หลังจากนั้นจึงออกเดินรุกขมูลร่ำเรียนไปทั่วภาคเหนือเกือบ 10 พรรษาจึงกลับมายังบ้านท่าอุดม โดยปักกลดอยู่ในป่าลึก
ต่อมาเมื่อญาติพี่น้องทราบถึงการกลับมาของหลวงปู่ครูบาครองต่างก็ดีใจรีบเดินทางไปนิมนต์กลับเข้าวัดท่ามะเกว๋น แต่ได้รับการปฏิเสธเนื่องจากอยากอยู่บำเพ็ญฌานสมาบัติโดยลำพังเพียงรูปเดียวในป่า ญาติพี่น้องทราบวัตถุประสงค์ของหลวงปู่ก็ได้ร่วมกันปลูกเพิงพักให้ท่านได้ปฏิบัติธรรมตามเจตนา หลวงปู่ครูบาครองจึงได้อยู่ป่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานานกว่า 60 ปี
หลวงปู่ครูบาครองเคร่งครัดในวัตรปฏิบัตร สวดมนต์ ทำสมาธิเป็นนิจไม่เคยขาด ชอบอยู่อย่างสันโดษ ไม่ชอบความวุ่นวาย มีปฏิปทาศีลาจารวัตรงดงาม อุปนิสัยสุขุมสงบเย็น มีความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ และจะสอนเสมอว่า “ให้เชื่อว่าบุญ บาปมีจริงก็พอ การทำบุญก็ไม่ต้องคิดว่าทำบุญมากบุญน้อย ขอแค่ให้รู้ว่าทำบุญทำสะสมไปก็มากเอง และบุญที่ใกล้ตัวที่ต้องการให้ศิษยานุศิษย์อย่ามองข้ามคือ พ่อ-แม่ ท่านคือเนื้อนาบุญกองใหญ่ต้องทำบุญกับท่าน ใบหน้าผิวพรรณท่านจะผ่องใส”
นอกจากนี้ หลวงปู่ครูบาครองไม่ใส่ใจในเงินทอง ไม่สะสม ไม่มีความอยากมีอยากได้ เป็นพระเถราจารย์ที่เรียบง่ายในความเป็นอยู่ รวมถึงด้านการปลุกเสกอธิษฐานจิต ถือว่าอยู่ในระดับ “สุดยอด” ทุกครั้งที่ทำการปลุกเสกจะตั้งจิตอธิษฐานด้วย “พลังจิต” ที่ได้เพาะบ่มเจริญด้วยศีล สมาธิ ปัญญาในป่า 60 กว่าปี และเวทวิทยาคมที่ได้สั่งสมมา ทำให้วัตถุมงคลของที่ผ่านการปลุกเสกเป็นที่ต้องการของศิษยานุศิษย์ และศรัทธาสาธุชนอย่างกว้างขวาง