ร้อยเอ็ด - แม่ครูสาวร้อยเอ็ดวอนสื่อช่วยเหลือ หลังลูกสาวถูกครูหนุ่มหลานนักการเมืองท้องถิ่นทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เกรงลูกสาวตายฟรี ด้าน ผกก.เสลภูมิ ท้องที่เกิดเหตุ เผยทำคดีรัดกุม ยันให้ความเป็นธรรมตามกฎหมาย
จากเหตุนางสาวเสริมศิริ ศรีสด อายุ 37 ปี ครูสาวโรงเรียนโคกสว่างหาญไพรวัลย์ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ถูกครูหนุ่มที่เป็นหลานนักการเมืองท้องถิ่นทารุณ ทำร้ายร่างกายจนศีรษะบวมช้ำ มีรอยเขียวช้ำที่ดวงตา ใบหน้า และร่างกายเขียวช้ำทั้งตัว และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น ซึ่งญาติทำพิธีฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการแจ้งความไว้แล้วแต่คดีความไม่คืบหน้า ทางนางทองพูล ศรีสด มารดาครูสาว จึงร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน
นางทองพูล ศรีสด มารดาของนางสาวเสริมศิริ ศรีสด ครูที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกสาวเดิมเป็นครูอยู่กรุงเทพฯ และได้ขอย้ายกลับมาสอนที่โรงเรียนโคกสว่างหาญไพรวัลย์ ต.โคกสว่าง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เมื่อปี 2554 มีนายก่อเกียรติ แก้วนาคูณ อายุ 42 ปี ครูชำนาญการโรงเรียนบ้านนาแพง ต.พรสวรรค์ อ.เสลภูมิ ร้อยเอ็ด มาติดพันคบหากัน และเมื่อคืนวันที่ 14 มิ.ย.ได้ออกจากบ้านไป บอกว่าไปหาเพื่อน จนกระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.มีโทรศัพท์จากนายก่อเกียรติโทร.มาแจ้งให้เดินทางไปโรงพยาบาลร้อยเอ็ดด่วนเนื่องจากลูกสาวโดนทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส สอบถามไม่ตอบว่าใครทำ บอกเพียงว่าให้รีบมา และแจ้งว่าจะขอรับผิดชอบเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงรีบเดินทางไป พบว่าลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ที่ศีรษะบวมช้ำ มีรอยเชียวช้ำที่ดวงตา ใบหน้า และร่างกายเขียวช้ำทั้งตัว ไม่ได้สติ แต่ไม่พบนายก่อเกียรติ ต่อมาโรงพยาบาลร้อยเอ็ดเห็นว่าอาการสาหัสมากจึงส่งตัวเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้ทำพิธีฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ค. หลังเกิดเหตุตนแจ้งความต่อ ร.ต.อ.พูลศักดิ์ โพลังกา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. แต่ไม่มีความคืบหน้า เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกสาวจะตายฟรี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด สอบถาม พ.ต.อ.ธวัชชัย สัตยาพัฒน์ ผกก.สภ.เสลภูมิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ซับซ้อน เป็นไปตามข้อเท็จจริง จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หลังจากที่นางทองพูล ศรีสด เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส พนักงานสอบสวนได้ไปตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดขึ้นจริง จากนั้นเรียกตัวนายก่อเกียรติ แก้วนาคูณ มาสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยดี และยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกาย น.ส.เสริมศิริจริง
จึงสั่งดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นญาติผู้ใหญ่ผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการใช้ตำแหน่งมายื่นประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการป่วยด้วยโรคเครียด ต้องพบแพทย์เป็นประจำ จึงให้ประกันตัวไป
ต่อมาทราบจากญาติว่าผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ และมาแจ้งความเพิ่มเติม ได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ซึ่งญาติคนเดิมก็ใช้ตำแหน่งมาขอประกันตัว ซึ่งไตร่ตรองแล้วว่าผู้ต้องหาไม่หลบหนี ประกอบกับมีอาการป่วย จึงอนุญาตให้ประกันตัวไป และยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อมทุกฝ่ายเพื่อเร่งสรุปสำนวนคดี
และขอให้เชื่อมั่นการสอบสวน จะให้เป็นไปด้วยความถูกต้องและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายด้วยความยุติธรรม ตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนที่มีวิพากษ์วิจารณ์ว่าผู้ก่อเหตุเป็นหลานนักการเมืองท้องถิ่นนั้น ตรวจสอบแล้วว่าเป็นหลานนายกเทศมนตรีตำบลเกาะแก้วจริงแต่เสียชีวิตไปแล้ว ยืนยันว่าจะไม่มีอิทธิพลทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไปเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ทำความผิดได้โดยเด็ดขาด ทุกอย่าต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย