บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน 3 ตำบล อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คนสุดทนหลังยื่นหนังสือหน่วยงานรัฐให้ยับยั้งการตัดไม้ “สวนป่าดงเค็ง” แต่ไม่เป็นผล ทำพิธีเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อขอให้ช่วยปกปักรักษาสวนป่า ทั้งเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง หลัง อ.อ.ป.เข้าตัดโค่นต้นยูคาฯ ที่ชาวบ้านร่วมกันปลูกและอนุรักษ์ไว้กว่า 30 ปี ขายให้บริษัทเอกชน 1,890 ไร่
วันนี้ (10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มอนุรักษ์ป่าดงเค็ง พร้อมตัวแทนชาวบ้าน ผู้สูงอายุ และเด็ก เยาวชนจาก 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.หนองขมาร ต.คูเมือง และ ต.บ้านแพ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน ยังเดินหน้าคัดค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ (อ.อ.ป.) เข้าทำการตัดโค่นต้นยูคาลิปตัสในสวนป่าดงเค็ง ซึ่งเป็นป่าสาธารณประโยชน์ที่ชาวบ้านร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูให้มีสภาพป่าที่สมบูรณ์และอนุรักษ์ไว้ ตั้งแต่ปี 2521 จนถึงปัจจุบันรวมกว่า 30 ปี เพื่อขายให้กับบริษัทเอกชน
พร้อมกันนี้ ตัวแทนชาวบ้าน ผู้สูงอายุ และเด็ก เยาวชน ยังได้ร่วมกันทำพิธีจุดธูปเทียนเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกปักรักษาป่าดงเค็งไม่ให้ถูกตัดโค่นทำลาย รวมทั้งได้เผาพริกเผาเกลือสาปแช่งคนที่ตัดไม้ทำลายป่า ก่อนที่จะนำต้นกล้าพันธุ์ยูคาลิปตัสไปวางไว้บนตอยูคาฯ ที่ถูกตัดโค่น เพื่อเป็นการประชดเจ้าหน้าที่ อ.อ.ป.ที่เข้าไปตัดโค่นต้นยูคาฯ ด้วย
โดยขณะที่ชาวบ้านเข้าไปทำพิธีเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พบว่าต้นยูคาฯ ได้ถูกตัดโค่นไปแล้วเกือบ 10 ไร่ ซึ่งจากข้อมูลทราบว่าทาง อ.อ.ป.มีเป้าหมายจะตัดต้นยูคาลิปตัสเพื่อส่งขายให้โรงงานกระดาษ หรือบริษัทเอกชน จำนวน 1,890 ไร่ ตามบัญชีการทำไม้ของ อ.อ.ป.
นายแสนศักดิ์ สายโส ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองขมาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร่วมกันคัดค้านไม่ให้มีการตัดโค่นต้นยูคาลิปตัส หรือต้นไม้ทุกชนิดในสวนป่าดงเค็งมาอย่างต่อเนื่องเพราะต้องการอนุรักษ์หวงแหนไว้ให้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ และแหล่งอาหารในการเก็บหาของป่า และเห็ดไปบริโภค และขายเลี้ยงครอบครัวของชาวบ้าน แต่หลังจากได้ยื่นหนังสือไปยังหลายหน่วยงานเพื่อคัดค้านการตัดไม้ในสวนป่าดังกล่าวแต่ก็ไม่เป็นผล
ล่าสุดทาง อ.อ.ป.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลรักษาป่าดังกล่าวกลับเป็นผู้มาตัดไม้เสียเอง จากกรณีดังกล่าวในเมื่อไม่สามารถพึ่งหน่วยงานภาครัฐได้ ชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ และลูกหลาน จึงได้พากันมาทำพิธีเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อเพื่อขอให้ช่วยปกปักรักษาป่าดังกล่าว พร้อมทั้งสาปแช่งผู้ที่ตัดต้นไม้ในป่าดังกล่าวด้วย
ด้าน นายไสว เข็มทอง ผู้ใหญ่บ้านบ้านดงเค็ง ม.5 ต.หนองขมาร กล่าวว่า ภายหลังชาวบ้านได้ยื่นหนังสือไปยังหลายหน่วยงาน ทั้งจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอ ให้ยับยั้งการตัดต้นยูคาลิปตัสในสวนป่าดงเค็ง แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาชะลอหรือยับยั้งการตัดไม้ของ อ.อ.ป. ชาวบ้านจึงจำเป็นต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยปกปักรักษาป่าตามความเชื่อ และล่าสุดได้มีการยื่นถวายฎีกาไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอให้มีการยับยั้งการตัดไม้ในสวนป่าดงเค็งดังกล่าวด้วย เพราะหากปล่อยให้ตัดจะไม่เหลือผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ไว้ให้ลูกหลานในอนาคต
นอกจากนี้ยังฝากถึงรัฐบาลด้วยว่ารัฐบาลมีนโยบายในการทวงคืนผืนป่าจากกลุ่มนายทุนหรือผู้บุกรุกครอบครองผืนป่าในหลายพื้นที่ทั่วประเทศกลับมาเป็นของแผ่นดิน แต่ทำไมถึงปล่อยให้ อ.อ.ป.เข้ามาทำตัดโค่นต้นยูคาลิปตัสที่ชาวบ้านร่วมกันปลูกและอนุรักษ์มาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปขายให้เอกชน
จากกรณีดังกล่าวจึงอยากให้ทางรัฐบาลได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงและยับยั้งการตัดไม้ในสวนป่าดงเค็งโดยเร็วด้วย ก่อนที่จะถูกตัดไปขายจนหมด
