บุรีรัมย์ - เกิดเหตุระทึกสาวใหญ่อายุราว 40 ปี กระโดดลงไปนอนพาดรางรถไฟก่อนจะเข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟบุรีรัมย์ จนขาช่วงใต้สะโพกขาดเป็น 2 ท่อนสาหัส สร้างความตกใจให้แก่ผู้โดยสารจำนวนมาก ก่อนแจ้งหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินเร่งนำร่างหมดสติส่งให้แพทย์ช่วยชีวิต ล่าสุด อาการโคม่า ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบเป็นการจงใจกระโดดให้รถไฟเหยียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วานนี้ (9 ก.ค.) ได้เกิดเหตุระทึกสาวใหญ่อายุประมาณ 40 ปี ไม่ทราบชื่อ และที่อยู่ ได้กระโดดลงไปนอนพาดรางรถไฟที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ให้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21 วิ่งมาจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าปลายทางอุบลราชธานี เหยียบทับร่างต่อหน้าต่อตาผู้โดยสารที่มารอขึ้นรถไฟเป็นจำนวนมาก ต่างส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจเพราะไม่มีใครคาดคิดว่าสาวใหญ่คนดังกล่าวจะคิดสั้นกระโดดให้รถไฟเหยียบทับร่าง จนขาช่วงใต้สะโพกขาดเป็น 2 ท่อน ทั้ง 2 ข้าง
จากนั้นเจ้าหน้าที่รถไฟ และผู้โดยสารต่างพากันวิ่งมาดู และพยายามจะช่วยเหลือ ขณะที่นายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อรีบนำร่างผู้บาดเจ็บซึ่งหมดสติให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
หลังนำร่างส่งโรงพยาบาลแพทย์ได้รีบนำเข้าห้องผ่าตัดทันที ล่าสุด อาการยังโคม่าเป็นตายเท่ากันแต่ยังมีสัญญาณชีพจร และแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่
ขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดของทางสถานีรถไฟบุรีรัมย์ สามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจนว่า หญิงคนดังกล่าวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทา ทะเบียน กลน 649 บุรีรัมย์ มาจอดไว้ด้านหน้าสถานี ก่อนเดินขึ้นไปบนชานชาลา และยืนรอรถไฟเหมือนกับผู้โดยสารคนอื่น และเมื่อรถไฟขบวนด่วนพิเศษกำลังวิ่งเข้าเทียบชานชาลา หญิงคนดังกล่าวได้กระโดดลงไปนอนพาดรางให้รถไฟเหยียบทับร่างจนขาช่วงใต้สะโพกขาดเป็น 2 ท่อนดังกล่าว
ด้าน นายณัฐกร พิกุลแก้ว เจ้าหน้าที่รถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะรถไฟขบวนดังกล่าวจะวิ่งเข้าเทียบชานชาลาที่สถานี ซึ่งขณะนั้นตนกำลังคล้องห่วงทางสะดวก หรือปลอดภัยก่อนที่รถจะเข้าเทียบชานชาลา เห็นหญิงคนดังกล่าวกระโดดลงไปนอนพาดรางรถไฟให้รถเหยียบทับร่างโดยไม่มีใครคาดคิด สร้างความตกใจให้แก่ผู้โดยสารเป็นอย่างมาก
ด้าน นายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ระบุว่า ขณะนี้กำลังประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขนส่งจังหวัดเพื่อตรวจสอบทะเบียนรถที่หญิงคนดังกล่าวขับมาว่าเป็นใคร เพื่อจะได้ติดต่อญาติให้มาดู และสอบถามถึงสาเหตุของการคิดสั้นในครั้งนี้