ศรีสะเกษ - พ่อเลี้ยงศรีสะเกษอุ้มลูกเลี้ยง 7 ขวบร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกหนุ่มกระทำชำเราล่วงละเมิดทางเพศ ขณะภรรยาไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ ให้ตามล่าคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน เผยฐานะยากจนหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันนี้ (4 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายสมชัย (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ชาว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ได้อุ้ม ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงเข้าร้องเรียนต่อ นายเสริมศักดิ์ โสภา ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ด.ญ.เอได้ถูกชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนกับลูกชายของคนข้างบ้านล่อลวงไปกระทำชำเรา โดยใช้นิ้วมือล่วงละเมิดอวัยวะเพศ จนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดและมีเลือดไหลออกจากอวัยวะเพศ
นายสมชัยให้การว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและพักอาศัยอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานขาว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยได้อยู่กินกับภรรยาซึ่งมีลูกติดมาด้วย 2 คน คนโตเป็นหญิงอายุ 7 ขวบ และคนเล็กเป็นผู้ชายอายุ 4 ขวบ ซึ่งตนและภรรยาจะออกไปทำงานหาเงิน และฝากลูกทั้ง 2 คนไว้กับเพื่อนบ้าน ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นเพื่อนลูกชายของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านของตนได้นำเอากีตาร์มาเล่นอยู่หน้าบ้าน ซึ่งขณะนั้นลูกสาวของตนกำลังเล่นอยู่หน้าบ้าน และต่อมาคนร้ายได้ลวงลูกเลี้ยงของตนเข้าไปในบ้านและได้ทำการข่มขืนโดยการใช้นิ้วพยายามล่วงละเมิดอวัยวะเพศ ซึ่งเด็กได้รับความเจ็บปวดจึงวิ่งร้องไห้ออกมาจากบ้านและร้องให้คนช่วย
นายสมชัยเล่าต่อว่า จนกระทั่งเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมาพบจึงได้ช่วยเหลือ พร้อมทั้งโทรศัพท์แจ้งให้ตนและภรรยาได้ทราบเรื่อง จึงรีบกลับมาบ้านและพากันออกไปติดตามหาตัวคนร้ายตามสถานที่ต่างๆ แต่ปรากฏว่าคนร้ายได้หลบหนีไปแล้ว ตนและภรรยาจึงรีบนำตัวลูกสาวไปที่โรงพยาบาลศรีสะเกษเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งแพทย์เห็นว่าอาการปลอดภัยแล้วจึงอนุญาตให้นำตัวลูกสาวกลับมาบ้านได้
จากนั้นตนได้ให้ภรรยาไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย และได้มาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากว่าครอบครัวของตนมีฐานะยากจนอาจไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ได้
ทางด้าน นายเสริมศักดิ์ โสภา ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จะได้รายงานเรื่องนี้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษทราบ และได้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายและให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.เออย่างเร่งด่วนต่อไป