เชียงใหม่ - ชีวิตรันทด พบครอบครัวพ่อ แม่ ลูก 5 ชีวิตสุดยากไร้ ต้องดัดแปลงรถพ่วงหลัง จยย.เป็นบ้าน ใช้ป้ายไวนิลมุงหลังคากันแดดกันฝน มีฟิวเจอร์บอร์ดเป็นฝาผนัง ตระเวนเก็บของเก่าทั่วเมืองเชียงใหม่ ขายเลี้ยงชีพ แถมลูกคนกลางโชคร้ายถูกน้ำต้มมาม่าลวกเป็นแผลพุพองครึ่งตัว
วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “วิน มาริโอ” ได้แชร์เรื่องราวพร้อมภาพถ่ายของครอบครัวที่มีเด็กตัวเล็กๆ ทั้ง 3 คนชาย หญิง อาศัยอยู่ในรถพ่วงที่ติดโครงเหล็กเป็นเหมือนบ้าน ใช้จักรยานยนต์ลากออกตระเวนเก็บของเก่าขายหาเลี้ยงชีพทั่วเมืองเชียงใหม่ พร้อมวิงวอนขอให้คนใจบุญร่วมช่วยเหลือ ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจแสดงความคิดเห็น แชร์เรื่องราวกันมากมาย
จากการติดต่อประสานงานกับ “วิน มาริโอ้” หรือนายทองอินทร์ นันทรัตน์ อายุ 38 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งได้นำผู้สื่อข่าวตามหาครอบครัวดังกล่าวซึ่งได้จอดรถพักอยู่บริเวณกำแพงหน้าสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่
พบว่า ครอบครัวที่ใช้รถพ่วงเป็นเหมือนบ้านออกเร่เก็บของเก่าขายเลี้ยงชีพ มีสมาชิกรวม 5 คน คือ นายชัยภูมิ หรือชัย นางหน่อ อายุ 60 ปี ผู้เป็นพ่อ และนางนาดะ หรือหมู นางหน่อ อายุ 27 ปี ผู้เป็นแม่ กำลังดูแลลูกทั้ง 3 คนอยู่ คือ ด.ช.ชัยสุรินทร์ หรือน้องริน นางหน่อ อายุ 7 ขวบ ด.ช.ศุภณัฐ หรือน้องหมี นางหน่อ อายุ 4 ขวบ และน้องสาวคนสุดท้อง ด.ญ.รสพร หรือน้องรถพ่วง นางหน่อ อายุ 2 ขวบ
ทั้งหมดอาศัยชั้น 2 ของรถพ่วงรถจักรยานยนต์เป็นบ้าน ด้วยการดัดแปลงติดตั้งโครงเหล็ก ใช้ป้ายไวนิลมาทำเป็นหลังคากันแดดกันฝน ใช้ป้ายโฆษณาฟิวเจอร์บอร์ดทำเป็นฝาผนัง ใช้จักรยานยนต์ลาก “บ้าน” ตระเวนไปเก็บขวดของเก่าตามกองขยะต่างๆ แล้วนำไปขายร้านรับซื้อของเก่า
ด.ช.ศุภณัฐ หรือน้องหมี นางหน่อ อายุ 4 ขวบ ลูกคนกลางจะร้องงอแงอยู่ตลอด เพราะถูกน้ำร้อนจากหม้อมาม่าลวกตั้งแต่แขน ลำตัว ขา จนพุพองครึ่งตัวตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 59 ที่ผ่านมา สอบถามทราบว่า กำลังต้มหม้อน้ำมาม่าเด็กซุกซนจนหม้อน้ำร้อนจัดลวกดังกล่าว
นายทองอินทร์ นันทรัตน์ อายุ 38 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก “วิน มาริโอ้” ผู้แชร์เรื่องราวเปิดเผยว่า ตนมาทำธุระผ่านไปมาย่านดังกล่าว ต่อมาได้สังเกตุเห็นว่ามีเด็กนอนกันอบู่บนรถพ่วงที่ทำเป็นโครงเหล็กหลังคา จึงสนใจว่าทำไมจึงมีเด็กอาศัยนอนกันอยู่ สอบถามจึงทราบเรื่องราวทั้งหมด และได้แชร์เรื่องราวให้คนได้รู้เพื่อมาร่วมช่วยเหลือกัน เพราะเป็นห่วงเด็กๆ ตัวเล็กๆ ทั้ง 3 คนมาก
“เท่าที่พูดคุยสอบถามทราบว่า บางครั้งพ่อแม่เด็กก็ต้องออกไปเก็บขยะ โดยต้องทิ้งเด็กทั้ง 3 ไว้บนรถพ่วงที่เรียกว่าบ้าน โดยสิ่งสำคัญตอนนี้คือ ต้องหาบ้านให้เด็กๆ และให้เด็กเข้าโรงเรียนให้ได้ โดยเฉพาะคนโตที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือมีพ่อเท่านั้นที่สอนอ่านเขียน”
ด.ช.ชัยสุรินทร์ หรือน้องริน นางหน่อ อายุ 7 ขวบ ลูกชายคนโต ซึ่งพอพูดรู้เรื่อง กล่าวว่า ทุกคนกินนอนอยู่บนใช้บ้าน(รถพ่วง) หมด บางครั้งทั้งหมดก็เรียนภาษาไทยจากพ่อสอนให้เหมือนห้องเรียนไปในตัวด้วย ส่วนชั้นล่างที่เอาของเก่าและขวดที่เห็บได้มาใส่ไว้ จะใช้ทำกับข้าวด้วย ขณะที่ห้องน้ำก็จะใช้ห้องน้ำในสนามกีฬาเทศบาลฯ
ด้าน นายเพชร แซ่เฮง เจ้าของร้านอาม่าขาหมู ซอยสุขเกษม ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ให้ครอบครัวดังกล่าวมารับของเก่าไปขาย เปิดเผยว่า รู้สึกสงสารครอบครัวนี้อย่างมาก พร้อมกับได้นำชุดเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว รวมทั้งของเล่นให้เด็กทั้ง 3 ด้วย ส่วนอาหารก็จะทำให้เด็กกินฟรีเพราะสงสารครอบครัวนี้ “เราทำตามกำลังที่ช่วยเหลือเขาได้”
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถติดต่อประสานงานกับ นายทองอินทร์ หรือพี่วิน ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 08-3038-5191
