คาดแพลงก์ตอนบลูมทำเต่าตนุ-โลมาอิรวดีตายเกยหาดวอนนภาบางแสน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - พบเต่าตนุ อายุประมาณ 30 ปี ตายเกยหาดวอนนภาบางแสน จ.ชลบุรี คาดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม ทำให้ขาดอากาศหายใจจนต้องขึ้นมาบนผิวน้ำ เป็นเหตุให้ถูกใบบัดเรือฟันกระดองแตกเป็นแผลฉกรรจ์ และในวันเดียวกัน ยังพบซากโลมาอิรวดี ตายเกยหาดบางแสน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (29 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลเมืองแสนสุข ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเต่าตัวขนาดใหญ่ตายเกยหาดวอนนภาบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบบริเวณชายหาดมีซากเต่าขนาดใหญ่นอนตายเกยหาด จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ เป็นเต่าตนุ อายุประมาณ 30 ปี ความยาว 1.20 เมตร กว้าง 80 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม คาดว่าน่าจะตายมาแล้วประมาณ 2-3 วัน เนื่องจากเริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่า เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำซากเต่าตนุขึ้นจากชายหาดเพื่อทำการตรวจสอบหาสาเหตุการตาย

จากการสำรวจพบ มีบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณกระดองด้านขวา ซึ่งคาดน่าว่าจะถูกใบพัดเรือ เนื่องจากเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา น้ำทะเลบริเวณชายหาดบางแสนได้เกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เต่าต้องขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ จนถูกใบบัดเรือฟันจนตาย และลอยมาเกยหาดวอนนภาดังกล่าว

ต่อมา ในเวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ฉลามขาวบางแสน ยังได้รับแจ้งจากแม่ค้าริมหาดบางแสน ว่า พบซากโลมาลอยมาติดบริเวณชายหาด หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณล็อกที่ 17 หาดวอนนภาบางแสน โดยพบซากโลมาอิรวดี สภาพเน่าเปื่อยเหลือเพียงส่วนหัวลอยมาติดบริเวณชายหาด

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบรอยคล้ายถูกของมีคมตัดบริเวณหางจนเหลือเพียงส่วนหัว และลำตัวบางส่วน สภาพเริ่มเน่าเปื่อย คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 3 วัน และยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า ถูกของมีคม หรือถูกสัตว์ทะเลกัดกินส่วนลำตัว และหางที่หายไป

ด้าน นายกิตติพง ไตรบุญ รองประธานชมรมกู้ชีพทางทะเลฉลามขาว เผยว่า จะทำการเก็บเนื้อเยื่อ และฟันไปให้ศูนย์วิจัยสัตว์ทะเลหายาก ทำการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการตาย รวมถึงอายุที่แน่นอนของโลมาอีกครั้ง