เชียงราย - พ่อ-แม่ ผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงเหยื่อไฟไหม้พอพักนอนโรงเรียนฯ มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ เวียงป่าเป้า ไม่เชื่อ “หลอดไฟหลอมละลาย” ทำไฟลุกคลอกลูกหลานดับ 17 ศพ เจ็บอีก 5 เรียกร้องมูลนิธิฯ ผู้ดูแลโรงเรียน แสดงออกการเยียวยามากกว่านี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างที่ นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายอำเภอเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จัดประชุมหารือร่วมระหว่างผู้บริหารโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา-มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า กับผู้ปกครองเด็กที่ประสบเหตุไฟไหม้เรือนพักนอนนักเรียนหญิงของโรงเรียน จนทำให้เด็กนักเรียนหญิงเสียชีวิต 17 คน บาดเจ็บ 5 คน สุดสัปดาห์นี้ที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.เวียงป่าเป้า
ในที่ประชุม ทางอำเภอได้แจ้งถึงการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุที่ผ่านมาว่า ได้มีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจรับบริจาค และพนักงานธนาคารออมสินรับบริจาคอีกกองทุน แล้วนำเงินมอบให้แก่ผู้ปกครองเด็กที่เสียชีวิต และบาดเจ็บทั้งหมดแล้วรวม 16,385,039.39 บาท
อย่างไรก็ตาม พบว่าในการประชุมหารือครั้งนี้ พ่อ-แม่ผู้ปกครองเด็กที่ประสบเหตุต้องการให้ทางมูลนิธิฯ แสดงความรับผิดชอบให้มากกว่านี้ โดยส่วนใหญ่ระบุว่า ที่ผ่านมา มีเพียงหน่วยงานองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบุคคลภายนอกที่ร่วมบริจาคที่ให้การช่วยเหลือผู้เสียหายทั้งหมด แต่ทางมูลนิธิฯ ยังไม่ให้การช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่
นายไตรวิทย์ แซ่ยะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในหมู่บ้านตนมีเด็กเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 3 ราย และเมื่อผู้สูญเสียทั้งหมดได้หารือกันแล้วก็เห็นว่า ทางมูลนิธิ หรือหอพักยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบมากเท่าที่ควร โดยเฉพาะในการเป็นเจ้าของสถานที่ ซึ่งกรณีอื่นๆ ทุกคนแทบไม่ติดใจ แต่อยากเห็นการเยียวยาด้านจิตใจกันตั้งแต่เริ่มต้น แต่กลับกลายเป็นว่า หลังเกิดเหตุ หน่วยงาน องค์กรอื่นๆ เป็นผู้ดำเนินการเสียมากกว่า จึงอยากให้มูลนิธิฯ ได้พิจารณา เพราะในฐานะเจ้าของสถานที่เกิดเหตุ
“ผมว่าการที่มีบ้านพักเด็กมากๆ ในความดูแลไม่จำเป็นต้องเป็นไฟไหม้ แม้แต่มีโจรเข้าไปทำร้ายเด็กเพียงคนเดียวก็คงจะพึ่งตัวเองไม่ได้ รวมทั้งตนก็ไม่เชื่อเต็ม 100% ด้วยว่า สาเหตุไฟไหม้เกิดจากหลอดไฟหลอมละลาย”
ด้าน นายประเสริฐ เกิดไพรพนาวัลย์ บิดา ด.ญ.ชมพู เกิดไพรพนาวัลย์ อายุ 8 ปี หนึ่งในนักเรียนหญิงที่เสียชีวิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางมูลนิธิฯ และโรงเรียนได้มอบเงินช่วยเหลือช่วงเกิดเหตุวันแรก 10,000 บาท เงินค่าทำประกันชีวิตรายละ 200,000 บาท ซึ่งเห็นว่าเป็นเงินที่ต้องจ่ายตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับหน่วยงานองค์กรอื่นๆ และท่าทีการเยียวยาจิตใจ ความรับผิดชอบ รวมถึงการติดต่อประชุมหารือกันพบว่ามีน้อยเกินไป
สำหรับสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ตนก็ไม่เชื่อว่า มาจากหลอดไฟหลอมละลายด้วยเช่นกัน เพราะมีกรณีเด็กบางคนที่ออกจากบ้านพักก่อนแล้วมีการนำเสื้อผ้าข้าวของใส่กระเป๋าออกมาด้วย จึงสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้หรือไม่ด้วย
ด้าน นางสมศรี สีห์พิทักษ์เกียรติ อายุ 67 ปีประธานมูลนิธิฯ ที่เข้าร่วมประชุม พร้อมกับ นางพิมพ์ วาสนา ผู้อำนวยการโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา และนายเรวัตร วาสนา ผู้จัดการโรงเรียน แจ้งต่อที่ประชุมว่า ตนบริจาคที่ดิน 22 ไร่ เพื่อให้มูลนิธิฯ นำมาช่วยเหลือเด็กกระทั่งเกิดเป็นโรงเรียน และบ้านพักขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็รู้สึกเสียใจมาก และต้องขอโทษที่เกิดขึ้น
ส่วนการจะช่วยเหลือเพิ่มเติมนั้นคงจะมีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว แต่ไม่สามารถแจ้งได้ทันที จะกลับไปประชุมกรรมการมูลนิธิฯ เพื่อให้คำตอบต่อไป
ขณะที่นางพิมพ์ แจ้งว่า ได้พยายามช่วยเหลือในเหตุการณ์นี้อย่างเต็มที่แล้ว และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นแต่เป็นเรื่องสุดวิสัย กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงเด็กทั้ง 17 คนที่เจอกันทุกวันก่อนเกิดเหตุอยู่ ด้าน นายเรวัตร ได้ยืนยันว่า วันเกิดเหตุ ได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือเด็กอย่างเต็มความสามารถแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบตามขั้นตอน
ขณะที่ นางเตือนใจ กล่าวว่า ปัญหานี้ตนคิดว่าเรื่องคงไม่จบเพียงแค่การจ่ายเงินทดแทน เพราะยังมีเรื่องที่คาใจผู้ที่ต้องสูญเสียบุตรหลานอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะสาเหตุของไฟไหม้ การช่วยเหลือช่วยเกิดเหตุ แม้จะมีการชี้แจงก็คงจะคาใจกันไปอีก แต่เวทีนี้ก็คงจะทำให้ได้ระบายความรู้สึกกันออกมา
ส่วนการเยียวยาตามการร้องขอของผู้ปกครองเด็กทั้งกลุ่มที่เสียชีวิต และกรณีเด็กคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บยังไม่รู้สึกตัวนั้น ก็ขอให้ทางมูลนิธิฯ ได้ไปประชุมกรรมการวิสามัญ และนัดให้ไปประชุมร่วมกับผู้ปกครอง ณ สถานที่เดิมแห่งนี้อีกครั้งในวันที่ 16 ก.ค.นี้ต่อไป
