ระยอง - ที่ปรึกษา สบ 11 พร้อมรอง ผบช.ภ.2 และคณะนายตำรวจลงพื้นที่ จ.ระยอง เร่งติดตามคดีคนร้ายตระเวนงัดตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ เผยคดีมีความคืบหน้า คาดจะสามารถจับกุมแก๊งคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (21 มิ.ย.) พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 11 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข รอง ผบช.ภ.2 ได้เดินทางมายังสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดระยอง เพื่อเรียกประชุมนายตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดระยอง และชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง รวมทั้งชุดสืบสวน สภ.มาบตาพุด
ในการติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายตระเวนงัดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง และยังได้ตระเวนใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย ก่อนยกกล่องใส่เงินรวม 4 กล่อง ซึ่งภายในมีเงินสด จำนวน 1,426,700 บาท หลบหนีไป
นอกจากนั้น คนร้ายยังก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 53 ถนนสายโขดหิน-เขาไผ่ ซึ่งอยู่ในท้องที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด และยังใช้กระดาษปิดกล้องวงจรปิดเพื่อไม่ให้จับภาพได้ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถยนต์เก๋งต้องสงสัยที่ใช้ก่อเหตุยี่ห้อโปรตอน สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียนด้านหน้า และด้านหลังไม่ตรงกัน
จากการตรวจสอบไปยังสำนักงานขนส่ง จังหวัดระยอง ทราบว่า รถยนต์เก๋งยี่ห้อดังกล่าวมีอยู่ในจังหวัดระยอง ประมาณ 3-4 คัน อยู่ในจังหวัดจันทบุรี 1 คัน และจังหวัดชลบุรีอีกประมาณ 10 คัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนต้องเร่งสืบสวนหาผู้ที่ใช้รถยนต์ยี่ห้อดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น และคณะนายตำรวจยังได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้าน พีพีมินิมาร์ท เลขที่ 21/1 ถนนกรอกยายชา ตำบลเนินพระ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องต่อเรื่องการเงินทั้งหมด ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ธนาคาร พนักงานขนเงิน พนักงานมินิมาร์ท และช่างซ่อมตู้เอทีเอ็ม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมยืนยันว่า การติดตามคดีมีความคืบหน้าไปมาก
ขณะที่ชุดสืบสวนยังได้เกาะติดสถานการณ์ รวมทั้งรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย คาดว่าจะสามารถจับกุมแก๊งคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้
