เพชรบุรี - หนุ่มหื่นกามบุกเข้าข่มขืนคนงานสาวชาวกัมพูชาภายในแคมป์คนงาน อำเภอบ้านลาด เพชรบุรี ต่อหน้าลูกน้อยวัย 5 เดือน ขณะสามีคนงานไม่อยู่ ก่อนหลบหนี ตำรวจ สภ.บ้านลาด ตามล่าตัว พร้อมตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด คาดเป็นคนในพื้นที่
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (17 มิ.ย.) ร.ต.อ.สมศักดิ์ เขียดทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุบุคคลถูกข่มขืนที่ริมถนนสายบันไดอิฐ-บ้านวังบัว หมู่ 3 ต.บ้านหาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นพิงพักแคมป์คนงานไม่มีเลขที่ ก่อขึ้นด้วยสังกะสี จำนวน 4 ห้อง บริเวณห้องแรกขวามือพบ นางจอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ชาวกัมพูชา ใส่เสื้อยืดแขนสั้น นุ่งผ้าถุง ยืนอุ้มลูกซึ่งเป็นเด็กทารกเพศหญิง อายุ 5 เดือน อยู่ในอ้อมแขน ร้องไห้ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
สอบถาม นางจอ กล่าวว่า ตนกับสามีชาวกัมพูชาเดินทางมารับจ้างเป็นคนงานก่อสร้างอยู่กับ นายสมฤทธิ์ ทับแก้ว ผู้รับเหมามานานกว่า 3 ปี ก่อนเกิดเหตุขณะที่สามี และเพื่อนคนงานได้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ ไม่มีคนงานทำงานอยู่ในไซต์งานดังกล่าว มีเพียงตนพักอยู่กับลูกโดยตนเปิดประตูห้องพักไว้เนื่องจากอากาศร้อน ขณะกำลังเล่นกับลูกในห้องได้มีชายไม่ทราบชื่อ ใส่เสื้อสีขาว สวมกางเกงสีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่น และยี่ห้อสีขาว มาจอดที่หน้าห้อง และเดินเข้ามาถามหาคนงานอ้างว่า ต้องการมาตามเพื่อไปทำงาน
เมื่อตนตอบว่าไม่มีใครอยู่คนงานไปทำงานทั้งหมดช่วงเย็นจึงกลับ ชายคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาในห้องอ้างว่า จะมาขอเข้าห้องน้ำ ตนเริ่มรู้สึกผิดปกติจึงเอ่ยปากให้ชายคนดังกล่าวออกไป และบอกว่า ห้องน้ำอยู่ด้านนอกแต่ชายคนดังกล่าวกลับหันหลังไปปิดประตู และบุกเข้าหาตนกดตนลงบนพื้น ตนพยายามดิ้นรนขัดขืน และร้องขอให้คนช่วย
ชายคนดังกล่าวได้ใช้มือปิดปากตน และขู่ว่า ถ้าไม่อยากเจ็บตัวให้อยู่เงียบๆ ตนรู้สึกกลัวมากเกรงว่าจะถูกทำร้าย หรือถูกฆ่า ลูกสาววัย 5 เดือน ก็นอนอยู่ใกล้เคียง กระทั่งชายดังกล่าวใช้กำลังข่มขืนตนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้นก็หลบหนีไป ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งไปยังนายจ้าง และให้นายจ้างติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงพบ คนร้ายขี่จักรยานยนต์จาก ถ.บันไดอิฐ แล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้าเพิงพักคนงานโดยไม่ลังเล คาดว่าน่าจะมีการดูลู่ทาง หรืออาจมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว คาดอาจเป็นคนในพื้นที่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านลาด ได้ประสานสายตรวจจราจร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องสืบหาตัวคนร้าย คาดว่าจะได้ตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว
