xs
xsm
sm
md
lg

หวิดดับ! หนุ่มใหญ่คลั่งปีนตึก 12 ชั้น รพ.ร้อยเอ็ดยามดึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ร้อยเอ็ด - หนุ่มใหญ่ระแวงคนตามฆ่า ปีนตึก 12 ชั้นโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ใช้เชือกจะโรยตัวหนีตำรวจและกู้ภัย คว้าไว้ได้หวิดตกตึกตาย เจ้าตัวยังให้การวกวนพูดจาเหมือนคนเสพสารเสพติด

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.คืนที่ผ่านมา (16 มิ.ย.) ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ภ.จว.ร้อยอ็ด รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ว่ามีชายคลุ้มคลั่งลอบปีนขึ้นไปบนชั้นที่ 12 ของอาคารสร้างใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์มะเร็ง ภายในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือว่ามีคนตามทำร้าย จึงแจ้งให้ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ส่งกำลังเข้าช่วยเหลือพร้อมฝ่ายปกครอง อ.เมืองร้อยเอ็ด รปภ.โรงพยาบาลร้อยเอ็ด หน่วยกู้ชีพอโสกจำนวนหลายสิบนาย

ถึงที่เกิดเหตุพบว่าบริเวณอาคารสร้างใหม่บนชั้นดานฟ้าซึ่งเป็นถังพักน้ำ เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของชายไทยไม่ทราบชื่อ จึงนำกำลังบุกขึ้นช่วยเหลือ แต่ชายดังกล่าวปิดช่องทางขึ้นถังพักน้ำไว้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงจึงใช้บันไดหาทางบุกขึ้นไปได้ ท่ามกลางชาวบ้านที่สนใจมุงดูเหตุการณ์โดยรอบจำนวนมาก แม้จะมองไม่ค่อยเห็นเพราะความมืด

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าช่วยอยู่นั้น ชายคนดังกล่าวก็ได้ผูกสายยางกับแท้งน้ำแล้วโรยตัวลงมาชั้นล่างเป็นที่น่าหวาดเสียวต่อสายตาผู้พบเห็นและเกือบพลัดตก แต่เจ้าหน้าที่สามารถคว้าขาและลากตัวออกมาได้ แต่ชายดังกล่าวพยามจะเดินหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันจับมัดและล็อกกุญแจมือ

สอบสวนเบื้องต้นชายรายนี้ยังให้การวกวนมีลักษณะคล้ายคนเมาสารเสพติด และไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน อายุประมาณ 40 ปี ขึ้นไปบนดานฟ้าด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่ตอบ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวลงมายังด้านล่างเพื่อไปสอบสวนและตรวจหาสารเสพติด

นายเชิดพงษ์ ไชยยงค์ โฟร์แมน ผู้รับผิดชอบและดูแลอาคารบอกว่า เย็นวานนี้หลังช่างก่อสร้างเลิกงาน ก็ได้ปิดทางขึ้นอาคารไว้ ส่วนคนงานไปนอนที่แคมป์ และตนเองจะนอนเฝ้าทุกวัน การก่อสร้างอาคารได้แล้วเสร็จเหลือการตกแต่งภายใน และเตรียมส่งมอบงานให้โรงพยาบาลร้อยเอ็ดสิ้นเดือนนี้ ขณะนอนหลับได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืนดังมาจากดาดฟ้า และได้ยินเสียงคนร้องตะโกนจึงขึ้นไปฉายไฟดู พบว่าชายดังกล่าวซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหนถอดเสื้อโบกผ้าขาวร้องขอความช่วยเหลืออยู่ ตนจึงแจ้ง รปภ.โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ทราบก่อนที่จะแจ้งตำรวจนำกำลังช่วยเหลือลงมาได้ปลอดภัย แต่การให้ปากคำเป็นไปในลักษณะวกวนสับสน จับใจความหาสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้ จึงนำส่งให้อยู่ในความดูแลของแพทย์เพื่อดูอาการต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น