หนองคาย-อุกอาจ! ยิงโหดชาวลาวกลางเมืองหนองคาย เสียชีวิต 1 สาหัส 1 เจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้าย และพบรถคันก่อเหตุจอดไว้บ้านญาติ ก่อนใช้รถอีกคันขับหลบหนี เบื้องต้น คาดเกิดจากการขัดแย้งมรดกระหว่างผู้ก่อเหตุกับภรรยาชาวลาว ที่กำลังมีคดีความฟ้องร้องกันอยู่
วันนี้ (13 มิ.ย.) ร.ต.อ.สรวิศิษฐ์ มีเพียร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง อ.เมือง จ.หนองคาย ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันที่หน้าร้านจันทร์แพงการเกษตร ชุมชนไร่ยาสูบ ถ.มีชัย อ.เมืองหนองคาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.หนองคาย กำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง และชุดกู้ภัยประจักษ์ รุดไปยังที่เกิดเหตุ
พบรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 2157 กำแพงนคร จอดติดเครื่องยนต์อยู่ริมฟุตปาธข้างร้านจันทร์แพงการเกษตร พบผู้บาดเจ็บสาหัสนั่งอยู่เบาะด้านหน้ารถ 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าตามลำตัว และศีรษะ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลหนองคาย
ทราบชื่อภายหลังคือ ท้าวบุนยะเดด ดวงบุบผา อายุ 20 ปี เป็นคนขับ และนางสยามพอน ดวงบุบผา อายุ 44 ปี นั่งข้างคนขับ ทั้ง 2 คน เป็นพี่น้องกัน อยู่เมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งท้าวบุนยะเดด ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย ศีรษะ และลำตัวหลายนัด อาการสาหัส ส่วน นางสยามพอน ถูกกระสุนชนิดเดียวกันยิงเข้าที่หน้าอก และลำตัวหลายนัด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองคาย แต่นางสยามพอน ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า ท้าวบุนยะเดด และนางสยามพอน ชาวลาวได้เข้ามาซื้อสินค้าภายในตัวเมืองหนองคาย ขณะขับรถมาตามถนนมีชัย ภายในตัวเมืองหนองคาย เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กต 5494 พังงา ขับแซงปาดหน้า
จึงทำให้ท้าวบุนยะเดด หักหลบจนติดฟุตบาธจอดสนิท จากนั้นมีชาย 2 คน เดินลงมาจากรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โดยชายคนขับสวมเสื้อยืดแขนสั้นลายขวางสีขาวดำ ได้เดินมาที่รถของชาวลาว พร้อมใช้มือทุบกระจกด้านขวาข้างคนขับ ซึ่งมี นางสยามพอน นั่งอยู่
จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนสั้นออกมายิงทะลุกระจกด้านข้างหลายนัด ก่อนเดินไปด้านหน้าแล้วสาดกระสุนทะลุกระจกหน้าอีกหลายนัด และได้เดินวนไปทางคนขับ (ด้านซ้าย) แล้วเปิดประตูรถจ่อยิงท้าวบุนยะเดด อีกหลายนัด
ส่วนคนร้ายอีกคนมีรูปร่างผอมสูง ผิวดำแดง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน หลังก่อเหตุคนร้าย 2 คนได้รีบขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุรวม 11 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถคนร้าย ทราบว่า เป็นทะเบียนเก่าที่ถูกเลิกใช้แล้ว และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถคนร้ายได้วิ่งมุ่งหน้าไปตามถนนริมโขง มุ่งหน้าไปทาง อ.ท่าบ่อ จึงวิทยุแจ้งให้ สภ.ท่าบ่อ ตั้งด่านสกัดจับแต่ไม่พบ
ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติ นางสยามพอน พบว่า เคยมีสามีเป็นคนไทย ชื่อ นายบูญชู แก้วพิลา อายุ 48 ปี ชาวบ้านบ้านปะโค ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานเหมือนคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ จึงออกติดตามไปยังบ้านพักแต่ไม่พบ เมื่อติดตามไปที่บ้านญาติซึ่งอยู่ภายใน ซ.ไก่แก้ว 30 พบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ คันที่ก่อเหตุจอดอยู่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม นางบุญโฮม แก้วพิลา พี่สาว และนายพิชิต แก้วพิลา พี่เขยของ นายบูญชู ทราบว่า นายบุญชู เพิ่งนำรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์มาจอด และได้ขับรถยนต์เก๋งสีขาว ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน เนื่องจาก นายบุญชู ได้ใช้กระดาษปิดทะเบียนไว้ โดย นายบุญชู ได้ขับออกไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงประมาณ 30 นาที จึงวิทยุแจ้ง สภ.ในพื้นที่ให้ตั้งด่านสกัดจับแต่ยังไม่พบ
ส่วนสาเหตุการบุกยิง นางสยามพอน และท้าวบุนยะเดด อย่างอุกอาจครั้งนี้น่าจะเกิดจากความแค้น ซึ่งนายบุญชู และนางสยามพอน เคยอยู่กินกันฉันสามีภรรยามาหลายปี ต่อมา ได้แยกทางกัน โดยฝ่ายหญิงได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อเอาทรัพย์สินทั้งหมด ทำให้ นายบุญชู เกิดความแค้น จึงได้ติดตามความเคลื่อนของ นางสยามพอน ตลอดมา กระทั่งมาพบขณะเข้ามาซื้อสินค้าภายในตัวเมือง จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจะได้ติดตามล่าตัวมือปืนโหดรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป