เชียงใหม่ - ทั้งรัฐ เอกชน และประชาชนร่วมฟื้นจารีตประเพณีโบราณที่ถูกยกเลิกไปตั้งแต่สมัยสิ้นระบบเจ้าครองนคร อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุศรีจอมทอง เข้าเวียง สมโภชเชียงใหม่ 720 ปี และ 550 ปี วัดพระธาตุศรีจอมทอง คณบดีวิจิตรศิลป์ มช.ย้ำ “งานสมโภชเมืองเชียงใหม่ 720 ปี ไม่ใช่มีแต่แห่แหนแต๋นแต้เท่านั้น”
วันนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 10-12 มิ.ย.นี้ หลายหน่วยงานในเชียงใหม่ ได้จัดพิธีอัญเชิญพระทักขิณโมลีธาตุ (พระบรมสารีริกธาตุศรีจอมทอง) มาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อสมโภชเมืองเชียงใหม่ ในวาระที่มีอายุครบ 720 ปี และวัดพระธาตุศรีจอมทองอายุครบ 550 ปี
พิธิเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการอัญเชิญพระธาตุเจ้าเสด็จออกจากวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ตั้งขบวนมุ่งหน้าไปตามถนนทางหลวง 108 ถนนเลี่ยงเมืองสันป่าตอง-หางดง และถนนเลียบคลองชลประทาน เพื่อประดิษฐานไว้ ณ วัดต้นเกว๋น อ.หางดง ก่อน 1 คืน ท่ามกลางศรัทธาประชาชนที่เดินทางมาร่วมพิธีสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุจำนวนมาก
ในวันนี้ (11 มิ.ย.)ได้มีการตั้งขบวนมุ่งหน้าไปวัดสวนดอก ก่อนแปรขบวนอัญเชิญพระบรมธาตุ เป็นขบวนเดินเท้า เข้าเวียงเชียงใหม่ ผ่านทางประตูช้างเผือก พร้อมพระเสตังคมณี และพระศิลา เมื่อขบวนถึงหน้าข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ก็จะทำพิธีสรงน้ำพระบรมธาตุฯ จนถึงเวลาประมาณ 16.00 น. จากนั้นในช่วงค่ำ จะมีพิธีสมโภช เจริญพระพุทธมนต์ สวดมนต์ตั๋น แสดงพระธรรมเทศนา 4 กัณฑ์ ธรรมจักรกัปวัตนสูตร ตามจารีตประเพณีที่ปฏิบัติกันในสมัยโบราณ
รศ.ดร.วรลัญจก์ บุณยสุรัตน์ คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มช.กล่าวว่า ในสมัยโบราณเมื่อครั้งที่เมืองเชียงใหม่ ยังมีระบบเจ้าผู้ครองนคร ในโอกาสวันสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมือง จะมีประเพณีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุศรีจอมทอง ขึ้นเสลี่ยงหลังช้างเป็นกระบวนแห่เดินทางเข้าสู่เวียงเชียงใหม่
แต่ก่อนจะเข้าเวียงเชียงใหม่ ได้แวะพักที่วัดต้นเกว๋น หนึ่งคืน เพื่อให้ประชาชนนอกเวียงแถบนั้นได้สรงน้ำสักการะ จากนั้นจึงอัญเชิญเข้าเวียงเชียงใหม่ เพื่อให้เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ และชาวเมืองสรงน้ำสักการะในโอกาสปี๋ใหม่
ด้วยเหตุนี้ วัดต้นเกว๋นในอดีต จึงเป็นวัดสำคัญ ซึ่งยังปรากฏร่องรอยของศิลปะสถาปัตยกรรมล้านนาที่งดงามตามแบบฝีมือช่างหลวง เช่น พระวิหาร ศาลาจัตุรมุขที่เคยใช้เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุเจ้าศรีจอมทอง ซึ่งทุกวันนี้ยังปรากฏหลักฐานมณฑป และรางรินสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุเจ้าอยู่
การอัญเชิญพระธาตุเจ้าศรีจอมทองเข้ามายังเวียงเชียงใหม่ในเทศกาลปี๋ใหม่เมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลดังกล่าว เป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณ และยกเลิกไปเมื่อสิ้นระบบเจ้าผู้ครองนคร ต่อมา ในประมาณหลัง พ.ศ.2477 จึงได้มีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์ฯ ออกมาเพื่อสรงน้ำสักการะในโอกาสปี๋ใหม่อีกครั้ง ตามแบบอย่างของกรุงเทพฯ ที่อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ประดิษฐานที่ท้องสนามหลวง ซึ่งริเริ่มขึ้นในสมัยพระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น การอัญเชิญพระธาตุเจ้าศรีจอมทอง เข้ามายังเวียงเชียงใหม่ จึงเป็นงานฟื้นฟูประเพณีที่มีมาตั้งแต่โบราณ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวาระสมโภชเมืองเชียงใหม่ 720 ปี และในโอกาสสมโภชพระธาตุเจ้าศรีจอมทอง 550 ปี จึงไม่ใช่งานปาหี่ เหมือนอย่างที่ได้ยินได้ฟังมาจากคนที่ไม่เข้าใจว่า “งานสมโภช 720 ปีเมืองเชียงใหม่ ไม่รู้จักทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน เอาแต่แห่แหนแต๋นแต้สนุกสนานกัน”
รศ.ดร.วรลัญจก์ ระบุว่า งานฟื้นฟูประเพณีอัญเชิญพระธาตุเจ้าศรีจอมทองครั้งนี้ เป็นงานใหญ่ที่ต้องมีการสืบค้น และเตรียมการทางวิชาการ และการดำเนินงานที่ต้องอาศัยความสมัครสมานสามัคคี และร่วมมือจากทุกฝ่าย และทุกภาคส่วนของชาวเชียงใหม่ รวมทั้งผู้อาศัยใบบุญในเมืองเชียงใหม่
เช่น คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) กำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 กองพลทหารราบที่ 7 กรมรบพิเศษที่ 5 และตำรวจกองบังคับการจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนองค์กรเอกชน และภาคประชาชนชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะศรัทธาประชาชนวัดต้นเกว๋น และวัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นต้น
