บุรีรัมย์ - “โสภณ เพชรสว่าง” อดีตรองประธานสภาฯ และอดีต ส.ส.บุรีรัมย์ 8 สมัย บุกแจ้งจับมือดีตั้งชื่อกลุ่มไลน์ซ้ำกันคือ “โสภณ คนมีเพื่อน” แล้วแชตข้อความหมิ่นเบื้องสูงสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย หวั่นสังคมเข้าใจผิดทำให้เสียชื่อเสียง เชื่อผู้ตั้งชื่อเจตนาทำลายชื่อเสียง ขณะตำรวจเร่งสืบหาต้นตอก่อนเรียกมาสอบสวน เบื้องต้นเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
วันนี้ (10 มิ.ย.) นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 8 สมัยของจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีต่อบุคคลที่ไม่หวังดี ตั้งชื่อกลุ่มไลน์ซ้ำกันชื่อกลุ่มว่า “โสภณ คนมีเพื่อน” แล้วมีการแชตข้อความหมิ่นเบื้องสูงในไลน์กลุ่มดังกล่าว จึงเกรงว่าสังคมจะเข้าใจผิดทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงได้นำหลักฐานข้อความที่มีการแชตกันผ่านไลน์กลุ่มดังกล่าว เข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาแหล่งที่มาของผู้ที่ตั้งชื่อกลุ่มไลน์ดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายฐานโพสต์และแชร์ข้อความหมิ่นเบื้องสูง และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายโสภณกล่าวว่า ตนเป็นผู้ตั้งกลุ่มไลน์ชื่อกลุ่มว่า “โสภณ คนมีเพื่อน” เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารกันระหว่างญาติพี่น้อง กลุ่มเพื่อนและผู้ที่เคารพนับถือกัน จากนั้นมีผู้เข้ามาเป็นเพื่อนในกลุ่มไลน์ดังกล่าวประมาณ 70 คน นอกจากใช้สื่อสารกันแล้วยังไว้สำหรับเป็นช่องทางในการให้คำปรึกษาเรื่องกฎหมาย หรือเรื่องเดือดร้อนต่างๆ ด้วย เพราะผู้ที่อยู่ในกลุ่มไลน์มีทั้งอัยการ ทนายความ และผู้ทรงคุณวุฒิ
กระทั่งมีผู้ที่หวังดีมาบอกว่ามีคนตั้งชื่อกลุ่มไลน์เหมือนกัน แล้วมีการแชตข้อความในลักษณะหมิ่นเบื้องสูง จึงได้นำข้อความดังกล่าวเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สืบสวนหาแหล่งที่มาของกลุ่มไลน์ดังกล่าวว่าเป็นบุคคลใดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนตัวเชื่อว่าผู้ที่ตั้งชื่อกลุ่มไลน์ซ้ำกลุ่มของตนนั้นมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ทำให้สังคมเข้าใจผิด เพื่อต้องการทำลายชื่อเสียงของตนเอง
ด้าน พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ระบุภายหลังมารับเรื่องการแจ้งความร้องทุกข์ด้วยตัวเองว่า เบื้องต้นได้ให้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นให้สืบสวนหาแหล่งที่มาของกลุ่มไลน์ดังกล่าว เพื่อเรียกตัวมาสอบสวนตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อความที่มีการแชตในกลุ่มไลน์ดังกล่าวเป็นการเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์