ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา จัดประชุมหาความชัดเจนในการก่อสร้างสะพานลอยคนพิการ หลังผู้ประกอบการท้องถิ่นฟ้องเมืองพัทยา พร้อมเดินหน้าโครงการตามแผน รองนายกเมืองพัทยา เผย สร้างแน่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ตามที่กรมทางหลวงชนบท ได้อนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสำหรับคนพิการ บริเวณหน้าโรงเรียนพระมหาไถ่ พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อความสะดวกต่อการเดินทางของคนพิการ และประชาชน โดยจะดำเนินการก่อสร้างเป็นโครงการนำร่องของประเทศ และถือเป็นสะพานลอยข้ามถนนที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่มีผู้ประกอบการท้องถิ่นบางรายเตรียมยื่นฟ้องต่อเมืองพัทยา เพื่อร้องให้พิจารณาแก้ไขปรับเปลี่ยนจุดก่อสร้าง โดยระบุว่า เพื่อความปลอดภัยของการดำเนินธุรกิจไปยังศาลปกครองตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมเพื่อหาความชัดเจนในการก่อสร้างสะพานลอยคนพิการ บริเวณหน้าศูนย์พระมหาไถ่ดังกล่าว โดยมีตัวแทนส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร มทบ.14 ตัวแทนสมาคมชุมชนเมืองพัทยา เข้าร่วมพิจารณา ทั้งนี้ เพื่อหารือแนวทาง และกำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจนอีกครั้ง ท่ามกลางกลุ่มคนพิการจำนวนกว่า 100 คน มาถือป้ายแสดงความขอบคุณ และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ในที่ประชุมดังกล่าวมีการชี้แจงถึงรายละเอียดในการก่อสร้าง ซึ่งเน้นไปเพื่อการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยสำหรับประชาชน นักท่องเที่ยว และคนพิการ โดยโครงการนี้จะมีการสร้างบันใดสำหรับขึ้นลงที่ทอดยาว รวมทั้งลิฟต์มาตรฐานเพื่อโดยสารการเดินทางขึ้น-ลงสำหรับคนพิการ และผู้สูงอายุ ซึ่งอดีตลักษณะการออกแบบเป็นผนังคอนกรีตที่อาจบดบังภูมิทัศน์บริเวณหน้าร้านผู้ประกอบการบริเวณดังกล่าว
โดยต่อมา ทางเมืองพัทยาจึงประสานกรมทางหลวงชนบท ในการปรับแก้แบบให้ตัวลิฟต์มีลักษณะเป็นกระจกใสเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้สะพานลอย และเปิดทัศนียภาพเพิ่มขึ้นจนสร้างความพอใจแก่ทุกฝ่าย แต่สุดท้ายก็มีปัญหาการร้องเรียนต่อศาลในที่สุด
ด้าน นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการก่อสร้างสะพานลอยแห่งนี้ว่าจะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อส่วนรวม จึงได้ร้องขอไปทางกรมทางหลวงชนบท กระทั่งมีการอนุมัติงบประมาณเพื่อเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมา ก่อนทำโครงการก็ได้มีการจัดทำแบบสอบถามความคิดเห็นของชาวบ้าน และชุมชนโดยรอบ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ต่างก็เห็นดีด้วยที่จะให้มีการก่อสร้างสะพานลอยดังกล่าวขึ้น
แต่ต่อมา เมื่อมีผู้ประกอบการบางรายเข้ามาประกอบกิจการภายหลังก็แจ้งว่า ได้รับผลกระทบจากการทำกินจึงพยายามรักษาสิทธิซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่กระทำได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม สะพานลอยแห่งนี้ต้องมีการก่อสร้างอย่างแน่นอนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ซึ่งจะเป็นไปตามแผนการดำเนินการของกรมทางหลวงชนบท ที่คาดว่าจะมีความเป็นรูปธรรมชัดเจนเร็ววันนี้