ศูนย์ข่าวศรีราชา- กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 จัดกิจกรรมทำบุญ พร้อมให้โอวาทกำลังพลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบปีที่ 26 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงาน กำลังพล และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ และพลทหารในสังกัดที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่
วันนี้ (1 มิ.ย.) น.อ.คมพันธ์ อุปลานนท์ ผู้บังคับการกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นประธานจัดกิจกรรมทำบุญ พร้อมให้โอวาทกำลังพลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบปีที่ 26 ณ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงาน กำลังพล และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ และพลทหารในสังกัดที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พล.ร.ท.ปัญจวัชร์ วิสุทธิทรัพย์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน นำกระเช้าดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดี และร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ กองบังคับการ กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
น.อ.คมพันธ์ กล่าวว่า กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 เป็นหน่วยกำลังรบขึ้นตรงต่อหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และเมื่อย้อนกลับไปในวันนี้ เมื่อปี 2533 เมื่อครั้งที่ พล.ร.ต.ประวิทย์ ศิวรักษ์ ประจำกองบัญชาการกองทัพเรือ ปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้บังคับการกรมต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้กระทำพิธีเปิดป้ายอาคารที่ตั้ง “กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2” หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ ขึ้นที่บริเวณสำนักงานดูแลที่ดินสวัสดิการกองทัพเรือ ณ บริเวณโรงเรียนทหารเรือ ที่ 5 ในที่ดินขั้นแรก 133 ไร่ 1 งาน 63 ตารางวา ซึ่งปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงเป็นที่ตั้งของกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 12 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1
ดังนั้น กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 จึงถือเอาวันนี้ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสถาปนาสำหรับกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 มีหน้าที่ในการป้องกันภัยทางอากาศ และป้องกันฝั่งทะเล ให้แก่พื้นที่สำคัญในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ และพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย มีผู้บังคับการกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ โดยในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 ได้ปฏิบัติภารกิจในการส่งกำลังพลเข้าร่วมการฝึกกองทัพไทย และการฝึกคอบร้าโกลด์ นอกจากนี้ ยังได้ส่งกำลังพลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติพื้นที่ต่างๆ เช่น อพยพนักท่องเที่ยวที่ติดเกาะในหมู่เกาะสิมิลัน และการเฝ้าตรวจแจ้งเตือนภัยการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ