มหาสารคาม - หวิดเกิดโศกนาฏกรรมหมู่! รถสามล้อเครื่องรับส่งนักเรียนขับออกมาจากปากทางหมู่บ้านปาดหน้ารถยนต์กระบะที่กำลังกลับรถทำให้เบรกไม่ทันพุ่งชนอย่างแรง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ11 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กนักเรียน 7 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (1 มิ.ย.) ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 จังหวัดมหาสารคาม ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะชนรถสามล้อเครื่อง ที่บริเวณปากทางบ้านติ้ว ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
จากนั้นได้แจ้งหน่วยกู้ชีพ อบต.เขวา กู้ชีพ อบต.แวงน่าง กู้ชีพโรงพยาบาลมหาสารคาม และแจ้ง ร.ต.อ.วิษณุกร แก้วสีขาว ร้อยเวรฯ สภ.เมืองมหาสารคาม ให้รีบรุดมายังที่เกิดเหตุ
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจอดรถมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ได้บาดเจ็บนอนร้องครวญครางอยู่บนถนน เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำการช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม โดยมีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 11 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 คน บาดเจ็บปานกลาง 5 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน
ในจำนวนนี้เป็นเด็กนักเรียน 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านส่องนางใย และนักเรียนโรงเรียนผดุงนารี ใกล้ที่เกิดเหตุพบรถสามล้อเครื่อง หรือที่เรียกกันว่ารถสกายแล็บ พลิกตะแคงอยู่ริมข้างทางด้านซ้าย โดยใกล้กับรถสามล้อเครื่องพบกระเป๋านักเรียน และรองเท้านักเรียนตกอยู่ ถัดไปประมาณ 10 เมตรที่ริมถนนด้านขวาพบรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บท 7165 มหาสารคาม จอดอยู่
สภาพรถด้านหน้าฝั่งซ้ายมีร่องรอยถูกชนจนฝากระโปรงยุบ โดยมีนายลิขิต ช่างสากล อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 4 ต.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เป็นคนขับรถ
ร.ต.อ.วิษณุกร แก้วสีขาว ร้อยเวรฯ สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า จากการสอบถาม นายลิขิต ช่างสากล คนขับรถยนต์กระบะ เล่าว่า กำลังเดินทางจากมหาสารคามไปทำงานที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถสามล้อเครื่องได้ขับออกมาจากปากทางบ้านติ้ว ก่อนจะปาดหน้ารถของตนเพื่อที่จะกลับรถ ทำให้เบรกไม่ทันพุ่งชนอย่างแรง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
สำหรับคนเจ็บทั้งหมดจำนวน 11 ราย ทราบว่าเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านติ้ว ต.เขวา อ.เมืองมหาสารคาม โดยสารรถสามล้อเครื่องออกมาจากหมู่บ้านเพื่อที่เข้าไปในเมืองมหาสารคาม ซึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต้องรอสอบปากคำคนขับรถสามเครื่องซึ่งขณะนี้ได้รับบาดเจ็บ ต้องรอให้ผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลก่อนจึงจะได้สอบปากคำเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป