เชียงราย - พนักงานสอบสวน ภ.5 จ่อสรุปคดีไฟไหม้หอพักนอนทำนักเรียนเชียงรายดับ 17 ศพ เผยอาจมีการตัดประเด็น “อุบัติเหตุ” ออก หลังสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องคืบหน้ากว่า 80% พุ่งเป้าประมาทหรือไม่-ป้องกันดีหรือไม่ ขณะที่ผู้ปกครองขอย้ายลูกหลานไปเรียนที่อื่นแล้ว 22 ราย
วันนี้้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีไฟไหม้บ้านพักเด็กหญิงโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาภายในมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เป็นเหตุให้เด็กหญิงชั้นอนุบาล-ป.6 เสียชีวิต 17 คนและบาดเจ็บ 5 คนเหตุเกิดวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดทางพนักงานสอบสวน ภ.5 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งขึ้นเพื่อคลี่คลายคดีนี้โดยเฉพาะได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 50 ปาก เหลือผู้ที่ยังไม่ได้สอบปากคำอีกเพียงประมาณ 10 ปาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์ และต้องสอบปากคำร่วมกับนักสหวิชาชีพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งให้ผู้ปกครอง นำเด็กมาให้ปากคำในวันประชุมศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยของฝ่ายปกครอง อ.เวียงป่าเป้า 3 พ.ค.นี้
พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผบช.ภ.5 ในฐานะคณะกรรมการพนักงานสอบสวน ภ.5 ในคดีนี้ กล่าวว่า การสอบปากคำถือว่าคืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว และได้ข้อมูลใหม่ๆ หลายเรื่อง คาดว่าจะสามารถสรุปการสอบสวนได้ภายใน 1 สัปดาห์นี้ แต่ยังคงรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐาน 5 อย่างเป็นทางการ และผลตรวจจากแพทย์อยู่
ประเด็นที่จะพิจารณาคือ การตัดเรื่องอุบัติเหตุออกไป โดยมุ่งเป้าไปที่ 2 เรื่องหลัก คือ ความประมาท ว่ามีหรือไม่ และการป้องกันเหตุที่ทำกันได้ดีหรือไม่ แต่ขั้นนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะต้องดำเนินการต่อใคร เพราะยังต้องรอข้อมูลทุกฝ่ายให้ครบก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสอบสวนที่ผ่านมานั้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องคนสำคัญไปแล้วคือ แม่บ้าน ที่ตามปกติจะอยู่ที่ชั้นล่างของบ้านพัก แต่คืนเกิดเหตุได้ออกไปทำธุระที่บ้าน และหลายคนสงสัยว่าอาจทราบร่องรอยก่อนเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ซึ่งให้การว่าก่อนออกจากบ้านได้ปิดไฟเอาไว้เรียบร้อย จากนั้นได้ปิดประตูหน้าจากด้านในก่อนเดินออกประตูเล็กที่ด้านหลัง
ขณะเดียวกัน ในการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 และกองพิสูจน์หลักฐาน ได้มีการแจ้งถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดจากขั้วหลอดไฟหลุดจากขั้ว หลอมละลาย และทำให้เกิดไฟไหม้ว่า เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ในบางเหตุการณ์ด้วย วันเดียวกัน นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายอำเภอเวียงป่าเป้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศึกษาธิการ จ.เชียงราย คณะกรรมการการศึกษาเอกชน ผู้บริหารโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ฯลฯ ได้ประชุมผู้ปกครองนักเรียนภายในโรงเรียนเพื่อแจ้งถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสอบถามความสมัครใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียน และพบว่ามีผูู้ปกครองแจ้งความประสงค์จะย้ายบุตรหลานไปเรียนที่อื่นจำนวน 22 คน ทางศึกษาธิการจังหวัดจึงได้แยกประชุมเพื่อให้การช่วยเหลือตามความประสงค์เป็นรายๆ ไป ขณะที่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุมีญาติเด็กๆ นำอาหาร ขนม น้ำ ฯลฯ ไปวางไว้ด้านหน้าเช่นเดิม
นายประเสริฐ กล่าวว่า หลังปิดศูนย์เฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไปแล้ว แต่ยังมีบัญชีช่วยเหลือเคลื่อนไหวเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยก่อนปิดบัญชี โดยสรุปยอดเงินช่วยเหลือจากทุกบัญชีได้รวมจำนวน 14,688,000 บาท และสิ่งของอีกเป็นจำนวนมากซึ่งกรณีสิ่งของจะมอบการช่วยเหลือให้แล้วเสร็จในวันนี้
ส่วนเงินช่วยเหลือจะมีการประชุมคณะกรรมการที่ตนจะตั้งขึ้นในวันที่ 1 มิ.ย.เพื่อพิจารณาช่วยเป็นรายๆ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต, กลุ่มผู้บาดเจ็บ และกลุ่มผูที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 36 คน โดยคณะกรรมการจะร่วมกันพิจารณากำหนดยอดเงินแต่ละราย ในลักษณะที่ว่าผู้สูญเสียมาก โดยเฉพาะเสียชีวิตก็คงได้มากส่วนรายอื่นๆ ลดหลั่นกันตามลำดับ โดยจะมอบให้วันที่ 3 มิ.ย.ซึ่งจะมีการทำบุญสืบชะตาเมืองเวียงป่าเป้าที่วัดป่างิ้ว ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้าด้วย