อุตรดิตถ์เร่งฟื้นฟูทุเรียนหลง-หลินลับแลหลังผจญไฟป่าและภัยแล้ง

อุตรดิตถ์ - ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ร่วมเกษตรจังหวัดเร่งฟื้นฟูทุเรียนหลง-หลินลับแล พร้อมย้ำผลผลิตปีนี้มีคุณภาพ แม้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและไฟป่า

จังหวัดอุตรดิตถ์เร่งส่งเสริมเพิ่มผลผลิตควบคู่กับการควบคุมคุณภาพทุเรียนหลง-หลินลับแล หลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและไฟป่า โดยจะไม่ปลูกใหม่หรือขยายพื้นที่ปลูกเพิ่ม แต่จะใช้วิธีทาบกิ่ง เสียบยอดจากต้นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองที่มีอยู่เดิม ซึ่งวิธีดังกล่าวจะทำให้ได้ทุเรียนจากต้นกำเนิดที่แท้จริง

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนายอำนาจ ปาลาศ เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์, นายธาตรี บุญมาก นายอำเภอลับแล ลงพื้นที่สวนทุเรียนของ นายสว่าง ปันลาด ม.7ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดทุเรียนหลินลับแล ที่นายหลิน ปันลาด ได้ปลูกไว้เมื่อปี พ.ศ. 2493

จากนั้นนายสว่าง ปันลาด ลูกชายคนเดียวที่สืบทอดมรดกและความรู้ในการดูแลและขยายพันธุ์ ได้ทำการขยายพันธุ์ทุเรียนหลินลับแล จนปัจจุบันมีอยู่ 300 ต้น ปีนี้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและไฟป่า ทำให้สวนทุเรียนหลินลับแลเหลืออยู่เพียง 117 ไร่ สามารถให้ผลผลิต 43 ตัน และจะให้ผลผลิตถึงเดือนกรกฎาคมนี้เท่านั้น

ทุเรียนของชาวสวน อ.ลับแลถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้งหมอนทอง หลง-หลินลับแล มีพื้นที่ปลูกรวมกว่า 34,000 ไร่ ปีนี้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและไฟป่า ทำให้ตัวเลขรายได้จากเดิมปีละ 5,000 ล้านบาท เหลือเพียง 2,000 ล้านบาทเท่านั้น