ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจหัวหิน รวบคนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์นักท่องราตรีเพื่อขโมยทรัพย์สินภายในรถได้แล้ว สารภาพทำมาแล้วหลายราย ทั้งในอำเภอหัวหิน และอำเภอบางสะพาน โดยเลือกรถยนต์ที่จอดรถในที่มืด ใช้ไขควงงัดกระจกจนแตกจากนั้นจึงมุดเข้าไปขโมยทรัพย์สิน เผยประวัติเคยติดคุกมาแล้วในคดียาเสพติด
วันนี้ (24 พ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.หัวหิน พร้อมด้วย พ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม พ.ต.ท.ปฏิวัติ วิเชียร สารวัตรสืบสวนสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.หัวหิน ได้นำตัวผู้ต้องหาก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ที่จอดไว้ริมถนนย่านสถานบันเทิงต่างๆ ในอำเภอหัวหิน มาแถลงข่าว พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในครั้งนี้มี 2 ราย คือ นายประสาน ใจฉลาด อายุ 36 ปี เป็นชาวจังหวัดหนองคาย และ น.ส.สาวิตตรี รื่นเกษม อายุ 24 ปี ชาวอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลางรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ รถกระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บพ 7758 ประจวบคีรีขันธ์ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน ขงง 294 เพชรบุรี โทรศัพท์มือถือ หมวกคลุมหน้า เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ และไขควง จำนวน 2 อัน
พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.หัวหิน กล่าวว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกรถยนต์เพื่อเข้าไปขโมยทรัพย์สินจำนวนหลายราย โดยสถานที่เกิดเหตุจะเป็นบริเวณที่จอดรถริมถนนใกล้สถานบันเทิงต่างๆ ในอำเภอหัวหิน ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้สั่งให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายทันที ซึ่งตำรวจได้ทำการตรวจสอบเห็นพฤติกรรมของคนร้าย และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการขับขี่หลบหนีได้จากกล้องวงจรปิด จนสามารถจับกุมคนร้ายทั้ง 2 ราย ได้ที่บ้านเช่าในอำเภอปราณบุรี
นายประสาน ใจฉลาด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับซ่อมแอร์ ได้ออกขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนก่อเหตุทุบกระจกรถที่จอดที่มืดห่างไกลสายตาผู้คนในยามค่ำคืน โดยเมื่อพบรถยนต์เป้าหมายจะใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในรถ หากพบมีทรัพย์สินของมีค่าวางอยู่ในรถจะใช้ไขควงงัดกระจกด้านข้างทั้งซ้ายขวา จากนั้นจะทุบกระจกจนแตกแล้วมุดตัวเข้าไปหยิบทรัพย์สิน ซึ่งวิธีดังกล่าวพบว่า สัญญาณกันขโมยจะไม่ดัง เมื่อได้ทรัพย์สินมาจะให้ภรรยาคือ น.ส.สาวิตตรี นำไปขาย เคยก่อเหตุมากว่า 10 ครั้งในอำเภอบางสะพาน และมาก่อเหตุที่อำเภอหัวหิน จำนวน 4 ครั้ง ก่อนจะถูกจับกุมได้ครั้งนี้
ทั้งนี้ นายประสาน ใจฉลาด และ น.ส.สาวิตตรี รื่นเกษม เคยถูกจับกุมในข้อหายาเสพติดมาก่อนและพ้นโทษมาได้ประมาณ 5 ปี โดยครั้งนี้ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นเพื่อคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หวังการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือร่วมกันรับของโจร