อธิบดีกรมอุทยานฯ นำกำลังทหารปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่บุกรุกบนเกาะเสม็ด

ระยอง - อธิบดีกรมอุทยานฯ นำส่วนงานที่เกี่ยวข้อง และกำลังชุดพญาเสือ ทหาร มทบ.14 รวม 150 นาย ลงพื้นที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง เพื่อปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่บุกรุกรวม 33 ไร่ และท่าเทียบเรืออีก 10 ท่า ขณะเดียวกัน ยังเตรียมฟ้องร้องเอาผิดผู้บุกรุกทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (24 พ.ค.) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายเฉลิมชัย ปาปะทา รักษาราชการแทนรองอธิบดีกรมอุทยานฯ นายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหาร (สบอ.2) ศรีราชา นายธนิศ จันทะเดช หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ ปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (ชุดพญาเสือ) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำลังทหาร มทบ.14 รวม 150 นาย ได้เดินทางลงพื้นที่หมู่เกาะเสม็ด อำเภอเมืองระยอง

เพื่อปฏิบัติการตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด รวมทั้งสิ้น 15 แปลง เนื้อที่กว่า 33 ไร่เศษ และท่าเทียบเรือรวม 10 ท่า ซึ่งเป็นพื้นที่บุกรุก

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเมื่อเทียบจากภาพถ่ายดาวเทียมปี 2545 พบว่า เป็นพื้นที่ที่ถูกบุกรุก และผู้กระทำผิดยังมีเจตนาจงใจบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ โดยใช้วิธีเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ ก่อนบุกรุกเข้ามาในเขตพื้นที่อุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยการปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถตรวจยึดที่ดินคืนรวม 15 แปลง คือ รีสอร์ต แพนโดร่า รวม 2 แปลง เนื้อที่ 0-2-53 ไร่, 1-1-14 ไร่ พื้นที่บ้านชมเสม็ด รีสอร์ต จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 1-3-94 ไร่, พื้นที่เสม็ดคลับ รีสอร์ต 2 แปลง เนื้อที่ 0-0-08 ไร่, 0-0-41 ไร่, พื้นที่เสม็ดคลิฟ รีสอร์ต จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 2-0-19 ไร่, นางเติบ สังข์สุวรรณ จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 1-1-88 ไร่, 1-0-69 ไร่, พื้นที่เสม็ดทรี รีสอร์ต จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 3-2-94 ไร่ และเสม็ดทรี รีสอร์ต อีก 2 แปลง เนื้อที่ 1-2-83 ไร่, 0-1-42 ไร่ รวมทั้งพื้นที่ไม่มีชื่ออีก 4 แปลง เนื้อที่ 0-1-01 ไร่, 7-0-61 ไร่ , 0-0-71 ไร่ และ 11-2-07 ไร่

ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ็งต่อผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง กรมอุทยานฯ จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด และหลังจากนี้จะได้ทำการฟื้นฟูพื้นที่ด้วยการปลูกป่าให้ฟื้นคืนสภาพเดิมต่อไป