ตร.เกษไชโยตามรวบทันควันคนร้ายงัดตู้บริจาควัดดัง

อ่างทอง - คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์แอบเข้าไปงัดตู้บริจาคภายในวัดไชโยวรวิหาร วัดดังเมืองอ่างทอง ก่อนพลเมืองดีมาพบเห็นแจ้งตำรวจตรวจสอบจนทราบตัวคนร้าย ก่อนใช้วิธีกดดันให้พ่อของคนร้ายโทรศัพท์ให้ลูกชายมามอบตัว แต่ยังให้การปฏิเสธ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (19 พ.ค.) ร.ต.ท.ประจักษ์ ป้อมยุคล รองสาวัตรสอบสวน สภ.เกษไชโย จังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดตู้บริจาควัดไชโยวรวิหาร หมู่ 3 ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอ่างทอง

ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหลังวิหารหลวงพ่อโต พบตู้บริจาคมีร่องรอยถูกงัดแงะฝาตู้ถูกเปิดออก ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า คนร้ายได้ใช้ไขควงทำการงัดตู้บริจาคได้เงินไปจำนวนหนึ่ง เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบว่า ไม่สามารถใช้งานได้

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า มีพลเมืองดีผ่านมาพบเห็นคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สแมช สีเทาแดง หมายเลขทะเบียน 279 อ่างทอง ก่อเหตุ โดยพลเมืองดีได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุไป

ส่วนคนร้ายรู้ตัวจึงทิ้งรถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุไว้บริเวณ ซ.เทศบาลไชโย 23 ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง และหลบหนีไป ทางพลเมืองดีได้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจค้นข้อมูลจนทราบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของ นายเฉลิมชัย โตเขียว อายุ 70 ปี ที่ บ้านเลขที่ 48 ม.2 ตำบลหลักฟ้า อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมชุดสืบสวนจึงเดินทางไปบ้านหลังดังกล่าว พบ นายเฉลิมชัย โดยให้การว่าตนไม่ทราบเรื่อง โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกชาย นายไพโรจน์ โตเขียว หรือน้อย อายุ 30 ปี ได้เข้ามายืมรถจักรยานยนต์บอกว่าจะไปทำธุระแล้วหายไป

พ.ต.ท.พัชร์พิสิฐ บุญสิงห์ใจ สารวัตรใหญ่ สภ.เกษไชโย พร้อมชุดสืบสวนจึงให้ นายเฉลิมชัย โทรศัพท์ติดต่อลูกชายคือ นายไพโรจน์ ให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน หลังจากพูดคุยทางโทรศัพท์อยู่พักใหญ่ นายไพโรจน์ จึงเดินทางเข้ามาที่ สภ.เกษไชโย พร้อมให้การปฏิเสธอ้างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการงัดตู้บริจาค ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป