พระนครศรีอยุธยา -คนร้ายย่องโจรกรรมไม้สักแกะสลักองค์เจ้าพ่อเกาะเรียน หรือ “เจ้าพ่อมะขามเฒ่า” อายุกว่า 100 ปี และไม้สักแกะสลักเจ้าแม่ขันทอง ภายในศาลเจ้าเกาะเรียน ที่ชาวบ้านในพระนครศรีอยุธยา เคารพ เชื่อนำไปทำพิธีไสยศาสตร์ วอนคนร้ายนำมาคืน
วันนี้ (17 พ.ค.) นายธีระ จันทร์โอ อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะกรรมการศาลเจ้าเกาะเรียน ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบร่องรอยคนร้ายหลังเข้าไปโจรกรรมไม้สักแกะสลักองค์เจ้าพ่อเกาะเรียน หรือเจ้าพ่อมะขามเฒ่า อายุกว่า 100 ปี และไม้สักแกะสลักเจ้าแม่ขันทอง ที่อยู่ภายในศาลเจ้าเกาะเรียน
จากการเข้าตรวจสอบพบว่า ศาลาเจ้าพ่อเกาะเรียน เป็นเรือนไทยใต้ถุนสูง ภายในศาลเจ้าพบว่าคนร้ายได้โจรกรรมเอาไม้สักแกะสลักเจ้าพ่อเกาะเรียน ขนาดความสูงประมาณ 80 เซนติเมตรไป เหลือไว้แต่เพียงฐานไม้ที่ตั้งขององค์เจ้าพ่อเกาะเรียน นอกจากนี้ คนร้ายยังได้โจรกรรมเอาไม้สักแกะสลักเจ้าแม่ขันทอง ขนาดความสูงประมาณ 40 ซม.ที่ชาวบ้านสร้างถวายไปด้วย
นายธีระ กล่าวว่า องค์เจ้าพ่อเกาะเรียน มีความสำคัญทางด้านจิตใจของชาวบ้าน อยู่คู่กับชาวตำบลเกาะเรียน มากว่า 100 ปี ใครเจ็บป่วย หรือมาขอพรเกี่ยวกับหน้าที่การงาน หรือขอพรสิ่งใดก็ประสบความเร็จได้ดังที่ขอ ใครจะจัดงานมงคลต้องมาบอกกล่าวที่ศาลเจ้า จึงมีชาวบ้านเข้ามากราบไหว้เป็นประจำ ควันธูปไม่เคยดับ
“ศาลเจ้าเป็นสถานที่เปิดไม่ได้ปิดล็อก ไม่คิดว่าจะมีคนร้ายเข้ามาขโมยอะไร จนเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมช่วงเย็น มีชาวบ้านเข้ามากราบไหว้พบว่า องค์เจ้าพ่อหายไป เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่เข้ามาโจรกรรมองค์เจ้าพ่อไปน่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายที่นำไปประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ ขอหวย หรือทำวัตถุมงคล จึงอยากฝากบอกต่อคนร้ายที่ก่อเหตุว่า องค์เจ้าพ่อมีความสำคัญต่อจิตใจของชาวบ้านอย่างมาก ขอให้นำมาคืนจะด้วยวิธีการใดๆ ก็ตาม”
นางเบญจวรรณ ธาราภิรมย์ อายุ 59 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ยายของตนเล่าให้ฟังว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เวลาที่ประเทศไทยถูกทิ้งระเบิดทุกคนจะใช้ศาลเจ้าเป็นที่หลบระเบิด ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายอะไร องค์เจ้าพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวบ้าน เป็นศูนย์รวมจิตใจ ความสามัคคี ทุกปีในวันที่ 19 เมษายน หลังสงกรานต์เราจะจัดงานทำบุญตักบาตร สรงน้ำองค์เจ้าพ่อ พบปะสังสรรค์กันในตำบลเกาะเรียน จึงอยากให้คนร้ายที่ขโมยไปนำมาคืนด้วย