ศรีสะเกษ - ตำรวจชุมชนออกไปทอดแหหาปลาถูกฟ้าผ่าตายเป็นรายที่ 3 ในรอบ 22 วัน
วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เรวัติ จิตติ พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุฟ้าผ่าคนเสียชีวิตที่บริเวณด้านทิศตะวันออก ฝายบ้านไหล่ดุม ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบว่า มีชาวบ้านมามุงอยู่เหตุการณ์อยู่ โดยที่บริเวณข้างคลองส่งน้ำพบศพของชายคนหนึ่ง ทราบชื่อภายหลัง คือ นายเสถียร เกษพงศ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 ม.2 บ้านไหล่ดุม ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีดำตัวเดียว มีรอยไหม้ที่บริเวณข้อศอกขวา ใกล้กันพบแห และถุงใส่ปลาจำนวนหนึ่งวางอยู่กับพื้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งนายเสถียร เป็นตำรวจชุมชน และเป็น อปพร.ของบ้านไหล่ดุม ด้วย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชม.
จากการสอบสวนเบื้องต้น นางเปียง เกษพงศ์ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต และเป็นผู้พบศพคนแรกให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเสถียร ได้บอกแก่ตนว่าจะออกไปหาปลาในคลองส่งน้ำฝายบ้านไหล่ดุม และต่อมาปรากฏว่า ได้เกิดมีฝนตกฟ้าคะนองอย่างหนัก หลังฝนตกหยุดแล้วด้วยความเป็นห่วงสามีตนจึงได้ออกมาตามหา และมาพบว่า นายเสถียร นอนเสียชีวิตอยู่ข้างคลองส่งน้ำ คาดว่าเสียชีวิตเพราะฟ้าผ่าเนื่องจากว่ามีรอยไหม้ตามลำตัว เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสถียร นับว่าเป็นรายที่ 3 ที่ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตในรอบ 22 วัน โดยรายแรกที่ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตคือ นายบุญจันทร์ วงษ์บุญ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ รายที่ 2 คือ นางรุ่งฤดี ตุลาโมกข์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 ม.2 ต.หนองหัวช้าง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ นายธวัช สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ ฝากเตือนประชาชนด้วยความห่วงใยว่า ในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง เพื่อความปลอดภัยประชาชนจึงควรงดใช้โทรศัพท์มือถือ หรือปิดเครื่องชั่วคราวในขณะที่เกิดฝนตกฟ้าร้อง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง หรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำ เช่น ทุ่งนา ลานกว้าง สนามกีฬา น้ำตก เป็นต้น และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ หรือใต้ต้นไม้สูง เสาไฟฟ้า หรือรั้วกำแพงที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบเพื่อความปลอดภัยจากการโดนฟ้าผ่า