ร้อยเอ็ด - ชาวบ้านชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดร้องให้ไล่ออก ผญบ.ที่ถูกจับบ่อนไก่ชนจนข้ามปียังไม่มีข้อสรุป ซ้ำยังไม่ทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านที่ดี จ่าจังจังหวัดรับเรื่องจะสอบให้เสร็จใน 7 วัน กรณีที่ให้ออก ส่วนเรื่องจากเปิดบ่อนไก่ มีความผิดทางวินัยด้วย
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 พ.ค.) ชาวบ้านหนองทุ่งมน ม.19 ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ประมาณ 200 คนเดินทางมาที่หน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด, คสช.เพื่อเรียกร้องให้ปลดนายกรสิทธิ์ อัคคะคำ ผู้ใหญ่บ้าน 19 ออกจากตำแหน่ง เพราะทำตัวไม่เหมาะสม และไม่สนใจแก้ปัญหา ไม่ดูแลความเป็นอยู่ของลูกบ้านให้สมกับที่ประชาชนต้องการ
นางกิริยาพร อุ่นโสดา แกนนำชาวบ้านกล่าวว่า ปัญหาแรกที่เรียกร้อง คือ การที่ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ทำตัวไม่เหมาะสม สร้างความเสื่อมเสียให้แก่หมู่บ้าน เปิดบ่อนชนไก่ในบ้านของตนเอง แล้วถูกตำรวจและทหารบุกเข้าไปจับเมื่อเดือน ก.ค. 58 ที่ผ่านมา ชาวบ้านเคยมายื่นร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งหลังเกิดเหตุแล้ว แต่จนบัดนี้ยังคงไม่มีการสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไร
นอกจากนี้ ผู้ใหญ่บ้านทำตัวไม่เหมาะสม ขาดความเป็นผู้นำ หลังจากถูกจับบ่อนไก่แล้วยิ่งไม่สนใจปัญหาของลูกบ้าน ไม่เคยทำหน้าที่ให้เหมาะสมกับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน จึงต้องรวมตัวกันเดินทางมาติดตามข้อเรียกร้อง ให้เร่งสรุปผลการสอบสวนปลดผู้ใหญ่บ้าน คือนายกรสิทธิ์ ออกจากตำแหน่ง ตามข้อเรียกร้องเดิม ที่ยื่นต่อนายอำเภอเมื่อเดือนตุลาคม 2558 แต่ไม่มีความคืบหน้า การสอบสวนนานเกินไปจนข้ามปี ควรที่จะปลดออกจากตำแหน่งได้แล้ว แต่นายอำเภอกลับไม่ทำ จึงมาร้องที่จังหวัดให้จัดการไล่ออกต่อไป
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้มอบหมายให้นายสุเทพ พิมพ์พิรัตน์ จ่าจังหวัดร้อยเอ็ด ลงมาพบและรับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าศาลากลาง พร้อมกับเรียกตัวนายประจักษ์ รำพาย ปลัดอาวุโส อ.เมืองร้อยเอ็ด มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อชาวบ้าน
นายประจักษ์ รำพาย ปลัดอาวุโส อ.เมือง กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนข้อเท็จจริงจากพยานชาวบ้านที่มี 15 ราย แต่สอบได้เพียง 10 ราย อีก 5 รายยังไม่มาให้ปากคำและข้อเท็จจริง ดังนั้นจะเร่งเรียกอีก 5 รายมาให้ปากคำแล้วเพื่อเร่งสรุปผลการสอบสวน โดยจะขอเวลาสอบปากคำให้เสร็จแล้วสรุปภายใน 7 วัน
ด้านนายสุเทพ พิมพ์พิรัตน์ จ่าจังหวัดร้อยเอ็ด ชี้แจงต่อชาวบ้าน ต่อข้อเรียกร้องของชาวบ้านว่าจะแยกเป็น 2 ประเด็น คือ การบกพร่องต่อการทำหน้าที่ ดูแลแก้ปัญหาความเป็นอยู่ และความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งการทำหน้าที่ด้านการดูแลเงินงบประมาณเพื่อการพัฒนาความเป็นอยู่ด้านการสร้างอาชีพ ซึ่งพบว่าหลายโครงการตามนโยบายของรัฐบาลก็ไม่มีการขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน ก็จะเร่งสรุปตามกำหนดว่ามีความผิดที่จะต้องปลดออกจากตำแหน่ง หรือสั่งให้ออกหรือไม่ต่อไป
“ประเด็นดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับการที่ถูกจับกุมเปิดบ่อนไก่ในบ้านของตนเอง โดยจะแยกเป็นอีกประเด็นเพราะทำผิดวินัย หากทำเสียเองก็ถือเป็นความผิด ซึ่งโทษคือให้ออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ก็จะต้องดำเนินการต่อไปด้วย”
ภายหลังได้รับฟังชี้แจง กลุ่มชาวบ้านสลายตัวกลับไปพร้อมกับย้ำว่าหากครบกำหนดเวลาสอบสวนแล้วยังไม่มีการดำเนินการใดใดกับผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านจะรวมตัวกลับมาติดตามเรื่องกับทางจังหวัดอีกครั้ง