จับขาใหญ่แก๊งค้ายาสู้ตำรวจ ผลปืนลั่นโดนตัวเองเจ็บ

อุบลราชธานี - ตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี จับแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่ขณะกำลังส่งมอบยาบ้า เกิดการต่อสู้ขวางการจับกุมจนปืนลั่นถูกผู้ต้องหา และยอมให้จับโดยดี พร้อมของกลางยาบ้า 388 เม็ด เพื่อนร่วมแก๊งสารภาพเป็นแก๊งใหญ่รับยาบ้าจากประเทศลาว

วันนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.อ.สนอง บุญเกิด ผกก.สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี พร้อมชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวจับกุมแก๊งค้ายาบ้าซึ่งใช้อาวุธปืนต่อสู้ขัดขวางการจับกุม แต่ทำปืนลั่นใส่ขาตัวเองเจ็บ โดยผู้ต้องหาคือ นายศรชัย หรือจ่อย บุญฤทธิ์ อายุ 30 ปี และนายคมสัน หรือคม ทองเทพ อายุ 29 ปี ทั้งคู่เป็นคนบ้านนาหว้า หมู่ 4 ต.โพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร ยึดยาบ้าได้ 388 เม็ด ปืนพกสั้นออโตเมติกขนาด 9 มม. 2 กระบอก กระสุนปืน 32 นัด แมกกาซีนใช้บรรจุกระสุน 2 แมก จักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอ็มสเล็บ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 8 พ.ค. ชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติดได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีการส่งมอบยาบ้าริมถนนข้างลำห้วยหินหล่อง บ้านนาหว้า ต.โพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร จึงนำกำลังไปดักซุ่ม พบ นายศรชัย ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายมากับ นายคมสัน ซึ่งเป็นบุคคลตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายศรชัย พยายามหักรถจักรยานยนต์ขับหลบหนี แต่รถเสียหลักล้มลง

ด.ต.สันติ พิมพ์บุตร ผบ.หมู่งานสืบสวนปราบปรามที่ยืนอยู่ใกล้จึงชาร์จเข้าจับกุม แต่ นายศรชัย ได้ดึงปืนพกสั้นออกจากเอวเล็งจะยิง แต่ ด.ต.สันติ ได้ใช้มือตะปบจับปืนจนเกิดการยื้อแย่ง และปืนได้ลั่นถูกบริเวณหัวเข่าข้างซ้าย นายศรชัย จนล้มลง และยอมให้จับ ขณะเดียวกัน เพื่อนตำรวจที่เหลือก็ได้เข้าจับนายคมสัน ที่มีปืนอีกกระบอกไว้โดยไม่มีการต่อสู้ขัดขวาง

เมื่อนำตัวคนทั้ง 2 คน มาสอบสวนให้การรับสารภาพ ก่อนถูกจับกุมได้ไปรับยาบ้ามาจากพ่อค้ายาบ้าชาวลาว ด้านอำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี จำนวน 20,000 เม็ด และได้นำยาบ้ากระจายส่งขายให้แก่ลูกค้าไปจนเกือบหมด เหลือติดตัวตามที่ตรวจค้นได้ในกระเป๋า จำนวน 388 เม็ด เพื่อเอาไว้เสพเอง และแบ่งขายให้แก่กลุ่มวัยรุ่นที่รู้จัก

จึงแจ้งข้อหาทั้ง 2 คน มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธไปในเมืองหรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนนายศรชัย ได้รับข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมและพยายามใช้อาวุธปืนฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ก่อนส่งตัวนายศรชัย ให้แพทย์รักษาบาดแผล และนำตัวมาควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป