นครพนม - ชาวนครพนม และคนไทยเชื้อสายเวียดนาม เตรียมพร้อมเปิดอนุสรณ์สถานลุงโฮ 19 พ.ค.นี้ ที่บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม มุ่งกระชับความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
วันนี้ (8 พ.ค.) นายวิศรุต จินธนะเสถียร นายกสมาคมไทย-เวียดนาม จ.นครพนม กล่าวว่า จังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดชายแดนที่สำคัญของภาคอีสานที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากจังหวดนครพนม เป็นจังหวัดชายแดนติดกับแม่น้ำโขง มีการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน ขณะที่ด้านการท่องเที่ยวยังเป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุพนม พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของ จ.นครพนม ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวคึกคักกว่าหลายจังหวัด
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ให้ความสำคัญต่อจังหวัดนครพนม ในฐานะเมืองคู่แฝด ที่ลงนามความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ทั้งเมืองที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ เคยมาพำนัก เพื่อหาลู่ทางกอบกู้เอกราช ปลดปล่อยประเทศเวียดนามยุคสงครามอินโดจีน ที่บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม
ล่าสุด สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้สร้างความร่วมมือกับจังหวัดนครพนม ตลอดจนชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ร่วมผลักดันให้ก่อสร้างอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ ที่บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม
ทั้งนี้ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้สนับสนุนงบประมาณเป็นเงิน จำนวน 45 ล้านบาท ก่อสร้างอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ บนพื้นที่ของกรมธนารักษ์ เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ภายในจัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของเส้นทางการต่อสู้กอบกู้เอกราชของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ก่อสร้างหุ่นขี้ผึ้งจำลองสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิตของลุงโฮ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับเวียดนาม
นอกจากนี้ ยังมีอาคารจัดแสดงสินค้าโอทอปของ จ.นครพนม โดยการก่อสร้างล่าสุดใกล้เสร็จสมบูรณ์ และพร้อมที่จะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ จะเปิดเป็นทางการในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 พร้อมจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 126 ปี วันคล้ายวันเกิดของลุงโฮ และครบรอบ 12 ปี การก่อสร้างหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนามขึ้น ที่จะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของไทยกับเวียดนาม