ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำนักท่องเที่ยวเกาหลี หน้าแมนชั่นย่านนาเกลือ ได้ทองหนัก 3 บาท อีกรายกระชากสร้อยนักท่องเที่ยวจีนหน้าอาบอบนวด ถนนพัทยาสาย 2 ได้สร้อยทองมูลค่า 5 หมื่นไปครึ่งเส้น
โดยรายแรก พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบกระชากสร้อยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี บริเวณหน้าเอ็ม แมนชั่น ซอยโพธิสาร ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
พบนายคิม บอง ซุก อายุ 45 ปี นักธุรกิจชาวเกาหลีผู้เสียหาย พร้อมเพื่อนชายหญิง 2 คน สัญชาติเดียวกัน ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับชี้จุดที่คนร้ายก่อเหตุ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่พื้นถนนใกล้จุดเกิดเหตุพบจี้สร้อยคอผู้เสียหายตกอยู่ จึงถ่ายรูป และเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายคิม ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงแรมที่พัก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายไทย รูปร่างท้วม สวมเสื้อแจ็กเกตสีครีม นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่ข้างหลัง ก่อนจะลงมือกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท มูลค่า 75,000 บาท แล้วเครื่องเร่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสจากชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และเมื่อเหยื่อพร้อมพวกเดินมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งค่อนข้างมืด และไร้ผู้คนได้ลงมือก่อเหตุทันที
ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งวิทยุกระจายข่าวสถานีตำรวจภูธรข้างเคียงให้สกัดจับกุมคนร้ายตามรูปพรรณสัณฐาน แต่ก็ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจะได้ลงพื้นที่เก็บภาพกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นแนวทางในการจับกุมคนร้ายต่อไป
ส่วนรายที่ 2 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้พาตัวผู้เสียหาย นายซอง ฮู อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.หญิงเต็มตรอง รอดศิริ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังถูกคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำได้ไปครึ่งเส้น เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสบายรูม อาบอบนวด ถนนพัทยาสายสอง
โดยผู้เสียหายให้การว่า ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณถนนพัทยาสายสอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อสีดำ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาด้านหลังแล้วเอื้อมมือกระชากสร้อยคอทองคำที่สวมใส่อยู่ มูลค่า 50,000 บาท ขาดติดมือคนร้ายไปครึ่งเส้น ส่วนอีกครึ่งเส้นตกอยู่กับพื้นถนน ก่อนคนร้ายจะเร่งเครื่องหลบหนีไป หลังเกิดเหตุได้มีอาสาสมัครอยู่บริเวณนั้นพอดีจึงพาตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหยื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ และล้วงกระเป๋า พบว่า ระยะช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในพื้นที่เมืองพัทยา และใกล้เคียงถูกคนร้ายก่อเหตุรายวัน โดยบางวันมีนักท่องเที่ยวตกเป็นเหยื่อเกือบ 10 ราย ซึ่งถือว่าคนร้ายตระเวนก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ถึงแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีวางมาตรการป้องกัน และกวดขันจับกุมแล้วก็ตาม
