แล้งยังคุกคาม-บ่อบาดาลวัดชายแดนแม่สอดเหม็น อาบแล้วคัน

ตาก - พระสงฆ์วัดชายแดนแม่สอดขอหน่วยงานรัฐตรวจสอบคุณภาพน้ำบ่อบาดาลหลังเจอภัยแล้ง น้ำมีสีผิดปกติ-ส่งกลิ่นเหม็น อาบแล้วผื่นขึ้น รดต้นไม้ก็เหี่ยวเฉาตาย ขณะที่ นพค.33 ยังคงต้องระดมพลขนน้ำแจกทั้งบ้าน วัด โรงเรียน ต่อเนื่อง

รายงานข่าวจากจังหวัดตากแจ้งว่า ภัยแล้งที่ยังคงลุกลามไม่หยุดอยู่ในขณะนี้อาจส่งผลกระทบถึงคุณภาพน้ำใต้ดินในพื้นที่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด ด้วยแล้ว โดยพระสมชาย ธรรมทิโน อายุ 58 ปี รองเจ้าอาวาสวัดปากห้วยแม่ปะ หมู่ 5 ต.แม่ปะ ได้แจ้งว่า น้ำจากบ่อน้ำบาดาลที่ตั้งอยู่ภายในวัดมีลักษณะเป็นสีขาวลื่น มีกลิ่นเหม็น หลังจากอาบน้ำแล้วเกิดอาการแพ้ ทำให้เกิดผื่นแดง และคันตามร่างกาย

ขณะที่พระภิกษุ สามเณร และเด็กวัด ประมาณ 7-8 คน ที่ใช้น้ำจากบ่อดังกล่าวในการอุปโภค บริโภค ก็เกิดอาการแพ้น้ำทำให้เกิดผื่นแดง และคันตามร่างกายตลอดเวลาหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว นอกจากนี้พบต้นข้าวโพด และต้นไม้หน้าวัดมีลักษณะเป็นสีเหลือง แห้งเหี่ยวเฉาตายหลายต้น

พระสมชายกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางวัดได้นำน้ำบ่อน้ำบาดาลในวัดมาใช้บริโภคและอุปโภคมาแล้วประมาณ 2-3 เดือน แล้วเกิดอาการแพ้ผื่นคันตามร่างกาย พอเอามาหุง-ต้มข้าว ก็ทำให้ข้าวเป็นสีเหลือง และเมื่อเอาน้ำมารดต้นไม้ปรากฏว่าต้นไม้ก็เหี่ยวเฉาตาย ตนจึงเกรงว่าน้ำในบ่อน้ำบาดาลอาจจะมีสารพิษปนเปื้อน

ตนจะพาพระภิกษุ, สามเณร และเด็กวัดไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสารพิษอีกครั้ง เพราะหลังมีอาการดังกล่าว พระภิกษุ สามเณร และเด็กวัดกลัวกันหมดไม่ได้หลับไม่ได้นอน ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบบ่อน้ำบาดาลให้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวานนี้ (5 พ.ค.) พ.อ.อภิวิศน์ สุธรรมวรโรจน์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33 (แม่สอด) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำรถบรรทุกน้ำเข้าไปช่วยเหลือแจกจ่ายน้ำให้วัด โรงเรียน และบ้านเรือนของประชาชนบ้านห้วยกะโหลก หมู่ 5 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก บรรเทาปัญหาภัยแล้ง

พ.อ.อภิวิศน์กล่าวว่า ภัยแล้งซึ่งส่งผลกระทบทั้งภาคเกษตร และการอุปโภค-บริโภคในหลายพื้นที่ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33 ได้เร่งให้การช่วยเหลือ นำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน โดยจะดำเนินการนำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายช่วยเหลือในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากชุมชนหรือหมู่บ้านใดที่ประสบปัญหา ให้แจ้งขอความช่วยเหลือมายังหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33 ได้ตลอดเวลา