ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ฤทธิ์พายุฤดูร้อนถล่ม อ.พระยืน ไม่ถึง 2 ชม. สร้างความเสียหายตำบลเดียว 4 หมู่บ้าน หลังคาปลิวว่อนมากกว่า 100 หลังคาเรือน บางหลังถูกหอบไปทั้งหลัง คาดต้องใช้งบซ่อมแซมหรือปูหลังคาใหม่ 50,000-100,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วันนี้ (5 พ.ค.) นายกิตติพงษ์ สุขภาคกุล นายอำเภอพระยืน จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายวิเชียร สีชารี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระยืน ร.ท.แก้ว งามเลิศ หน.ชปพท.ม.พัน.14 ค่ายเปรมติณสูลานนท์ จ.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังจากได้รับแจ้งว่าเมื่อเวลา 21.00-22.30 น.คืนวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลพระยืน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายมากกว่า 100 หลังคาเรือน มีคนเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่หมู่ 1 พบว่าบ้าน 36 หลังคาเรือน หลังคาปลิวว่อนเหลือแต่เสา โดยเฉพาะบ้านของนางมยุรี ชามะรัตน์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 บริเวณชั้น 2 เครื่องใช้ไฟฟ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ถูกลมพายุพัดระเนระนาด และนางมยุรีได้รับบาดเจ็บถูกเศษกระจกตกมาใส่ที่คิ้วซ้ายแตกต้องเย็บแผล 2 เข็ม
ขณะที่หมู่ 2 บ้านถูกลมพายุพัดหลังคาปลิวหายไปไม่น้อยกว่า 27 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้าในหมู่บ้านหักโค่นลงมา 2-3 ต้น, หมู่ 14 ถูกลมพายุกระหน่ำพัดให้บ้านพังเสียหายยับเยิน 30 หลังคาเรือน และหมู่ 17 ถูกลมพายุกระหน่ำพัดบ้านจำนวน 10 หลังคาเรือน หลังคาปลิวว่อนออกจากบ้านทุกหลัง และมีบ้านหลังหนึ่งถูกพายุพัดถล่มเสียหายไปทั้งหลัง
นายมยุรี หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อประมาณ 3 ทุ่มของคืนที่ผ่านมาได้มีพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเข้ามาในเขตเทศบาลตำบลพระยืน เป็นลมพายุที่แรงมาก และยังมีลูกเห็บตกลงมาอีกจำนวนมาก เมื่อแรงลมพายุพัดผ่านบ้านไหนหลังคาบ้านจะต้องถูกหอบปไกลกว่า 50 เมตร ข้าวของเครื่องใช้เปียกปอนไปตามๆ กัน ไม่สามารถพักอาศัยได้ และตนก็ถูกเศษกระจกในบ้านที่ถูกลมพายุพัดจนแตกและบางชิ้นส่วนกระเด็นเข้ามาที่คิ้วซ้ายให้ได้รับบาดเจ็บ
ด้านนายวิเชียร สีชารี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระยืน เปิดเผยว่า ปีนี้ในเขตเทศบาลตำบลพระยืน ประสบกับสภาพอากาศแปรปรวน และร้อนอบอบอ้าว ทำให้เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมาเกิดพายุฤดูร้อนซึ่งมีฝนตกหนัก ลมแรง มีลูกเห็บตกลงมาจำนวนมาก และมีพายุหมุนจนบ้านเรือนราษฎรในเขตเทศบาลตำบลพระยืนพังเสียหายมากกว่า 100 หลังคาเรือน
อย่างไรก็ตาม อ.พระยืน และเทศบาลตำบลพระยืน ได้เร่งสำรวจความเสียหายในหมู่บ้าน และส่งช่างพร้อมเครื่องมือลงไปซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน ที่ได้รับความเสียหายเป็นการเร่งด่วนแล้ว โดยมีชาวบ้านบางส่วนที่รอการช่วยเหลือของรัฐไม่ไหวได้เก็บสังกะสีที่ถูกลมพัดปลิวไปมาซ่อมแซมบ้านของตัวเองคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณซ่อมแซมไม่ต่ำกว่าหลังละ 50,000-100,000 บาท เพื่อจะได้อยู่อาศัยไปก่อน