xs
xsm
sm
md
lg

อาคารจอดรถ-เรือเมืองพัทยามูลค่ากว่า 700 ล้าน สร้างเสร็จแล้วแต่เปิดใช้งานไม่เต็มที่ ล่าสุดสั่งปิดปรับปรุงใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อาคารจอดรถ-เรือเมืองพัทยามูลค่ากว่า 700 ล้าน
ศูนย์ข่าวศรีราชา-อาคารจอดรถ-เรือ เมืองพัทยา มูลค่ากว่า 735 ล้านบาท สร้างเสร็จนานนับปีแต่เปิดใช้งานไม่เต็มที่ ล่าสุด สั่งปิดปรับปรุงหลังผู้รับสัมปทานขาดทุนเพราะไม่มีใครมาใช้บริการ ด้านเมืองพัทยาเตรียมปรับ TOR ใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ กู้วิกฤต

จากกรณีที่เมืองพัทยา ได้รับงบประมาณจัดสรรจากภาครัฐ จำนวน 735 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินการก่อสร้างที่จอดเรือ และที่จอดรถยนต์แบบอัตโนมัติบนดิน และใต้ดิน พร้อมกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ประมาณ 8,833 ตารางเมตร สูง 6 ชั้น และ 1 ชั้นใต้ดิน ซึ่งสามารถรองรับการจอดรถได้ถึง 417 คัน บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยได้ว่าจ้าง 4 บริษัทภาคเอกชนในนามกิจการร่วมค้า PING ได้แก่ บริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง,บริษัทอินเทนซีพ แมคคานิคส์ จำกัด, บริษัทกลอรี่ คอนสตรัคชั่น จำกัด และบริษัทนาคานครวิศวกรรมจำกัด เข้ามาก่อสร้าง ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2556 เพื่อรองรับการจอดยานยนต์ของนักท่องเที่ยวนั้น

สำหรับโครงการดังกล่าวหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีการส่งมอบงานจากผู้รับเหมาให้แก่เมืองพัทยาไปแล้วนั้น แต่ปรากฏว่า ผ่านมานานกว่า 2 ปี อาคารที่จอดรถก็ยังไม่มีการเปิดให้บริการแก่สาธารณะ กระทั่งต่อมา ในช่วงต้นปี 2558 เมืองพัทยาได้ทำการเปิดประมูลโครงการ โดยคัดเรตอัตราค่าสัมปทานเดือนละ 2 แสนบาท ซึ่งเป็นเรตที่คิดตามการวิเคราะห์ทางหลักวิชาการ โดยมีภาคเอกชนที่สนใจ จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัทเอเซีย ทราฟฟิก และบริษัทเอ็มพีแม็ก จำกัด โดยจากผลการประมูลพบว่า ทางบริษัทเอ็มพีแม็ก จำกัด สามารถชนะการประมูล ได้รับสิทธิเข้ามาทำสัมปทานเพื่อจัดเก็บรายได้ โดยมีสัญญาค่าเช่าในอัตรา 350,000 บาทต่อเดือน

โดยตลอดระยะเวลาของการเปิดใช้งานพบว่ าโครงการดังกล่าวไม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากนัก แม้ว่าในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการบริเวณท่าเรือสูงกว่า 8,000-10,000 คน ซึ่งมีจำนวนยานพาหนะมากกว่า 500-700 คัน แต่มีข้อจำกัดในการใช้พื้นที่จอดในหลายกรณี เช่น รถที่ผ่านการตกแต่งที่มีขนาดความสูงผิดจากรถที่ผลิตจากโรงงาน หรือรถที่ทำการติดตั้งระบบเชื้อเพลิงแบบแก๊ส และมีความสูงเกินกำหนดก็ไม่สามารถใช้บริการได้ ขณะที่อัตราค่าบริการก็อยู่ในเรตราคาที่ค่อนข้างสูง คือ 300 บาท/คัน /วัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ธุรกิจรับฝากที่จอดรถของเอกชน และชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งสนนราคาอยู่ที่คันละ 80-100 บาท/วัน ได้รับความนิยม และมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่โครงการของเมืองพัทยาที่จัดทำไว้กลับมีการสนองตอบไม่มากนัก

ขณะนี้ได้รับรายงานว่า โครงการที่จอดรถเมืองพัทยาได้ปิดการให้บริการโดยไม่มีกำหนด โดยมีการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ไว้ถึงกรณีที่จะมีการปรับปรุงระบบใหม่อีกครั้ง โดยจากการสอบถามแหล่งข่าวระดับสูงของเมืองพัทยา ได้รับการเปิดเผยว่า สำหรับการปิดโครงการครั้งนี้มีเหตุผลเนื่องจากผู้รับสัมปทาน คือ บริษัทเอ็มพีแม็ก จำกัด ประสบภาวะการขาดทุน เนื่องจากโครงการไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค อีกทั้งเมืองพัทยา ยังสั่งให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของการจอดรถบริเวณพื้นที่โดยรอบ จึงทำให้รายได้จากการจัดเก็บไม่ตรงไปตามเป้าหมาย อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการซ่อมบำรุง ระบบริหารจัดการ ทั้งเรื่องของบุคลากร อุปกรณ์ และค่าสาธารณูปโภคที่อยู่ในอัตราสูง ส่งผลให้มีปัญหาการติดค้างชำระค่าเช่าต่อเมืองพัทยาเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน กระทั่งล่าสุด มีกระแสว่า เมืองพัทยาได้ทำการยกเลิกสัญญาสัมปทานการเช่าอาคารไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมได้ดำเนินการติดตามทวงหนี้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย

สำหรับโครงการดังกล่าวถือเป็นระบบใหม่ที่มีมูลค่า และต้องอาศัยผู้ควบคุมที่มีความชำนาญสูง โดยเฉพาะเรื่องของการดูแล และซ่อมบำรุง ทำให้การกำหนดสเปกของการว่าจ้างผู้เข้ามารับช่วงสัมปทานมีข้อจำกัดในหลายกรณี ส่งผลให้มีภาคเอกชนที่เสนอตัวเข้ามาขอสัมปทานในจำนวนที่ไม่มากนัก แม้ว่าสนนราคาค่าเช่าต่อเมืองพัทยาจะมีราคาไม่สูงมาก แต่หากเทียบกับมูลค่าการลงทุนโครงการในจำนวนหลายร้อยล้านบาท ส่วนการดูแล และการซ่อมบำรุงระบบจำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ และวัสดุอุปกรณ์ที่มีราคาสูง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การคิดอัตราค่าบริการก็อยู่ในอัตราที่สูงเกินกว่าที่ผู้บริโภคจะรับได้เช่นกัน เป็นที่มาของกระแสจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวท้องถิ่นที่ออกมาตำหนิภาพรวมของโครงการว่า มีการใช้งานอย่างไม่สมประโยชน์ เนื่องจากมีการตอบรับจากประชาชนที่ไม่มากนัก ที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางไปพักผ่อนยังเกาะล้าน ซึ่งมีเป็นจำนวนมากยังคงต้องประสบต่อปัญหาที่จอดรถที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการไปอย่างไม่มีกำหนด ที่สำคัญจะให้เมืองพัทยา เข้ามาบริหารจัดการเองก็คงเป็นเรื่องลำบาก เพราะขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญที่จะเข้ามากำกับดูแล จึงยังไม่มีคำตอบว่า ปัญหาดังกล่าวจะมีการแก้ไขออกมาในรูปแบบใด

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของโครงการอย่างเป็นทางการ หลังมีการยกเลิกสัมปทานไปก่อนหน้านี้ โดยมีกระแสเพิ่มเติมว่า จะมีการนำกรณีปัญหาของโครงการที่จอดรถมาพิจารณาเป็นการเร่งด่วนเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งแนวทางหลักคาดว่าจะมีการพิจารณาแก้ไขกรอบของข้อสัญญา หรือ TOR ใหม่ เพื่อเปิดช่องทางให้ทางผู้รับสัมปทานสามารถเข้ามาบริหารจัดการได้โดยไม่ประสบภาวะขาดทุน และยังคงสามารถให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบตามวัตถุประสงค์ของการจัดทำโครงการ ซึ่งมีกรณีหนึ่งที่น่าจะมีการหยิบยกขึ้นมาหารือคือ การยกพื้นที่บางส่วนบริเวณโดยรอบอาคารเพื่อให้ผู้รับสัมปทานหาแนวทางจัดหาประโยชน์ โดยคาดว่าคงจะมีการพิจารณาภายในเร็ววันนี้
ล่าสุดปิดปรับปรุง พร้อมเปลี่ยนข้อสัญญาหรือ TOR ใหม่
โครงการดังกล่าวถือเป็นระบบใหม่ต้องอาศัยผู้ควบคุมที่มีความชำนาญสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น