พิษณุโลก - อากาศร้อนจัด สาวใหญ่เจ้าของร้านเสริมสวยมีโรคประจำตัว-ป่วยกระเสาะกระแสะ ปิดร้านเปลือยกายเปิดพัดลมจ่อ เช้ามาเจ้าของห้องเช่าเห็นไม่เปิดร้าน เรียกไม่ได้ยินเสียงตอบ เปิดประตูเข้าไปดูพบกลายเป็นศพคาโซฟาแล้ว
วันนี้ (3 พ.ค.) ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่าพบศพหญิงสาวเสียชีวิตในร้านเสริมสวย ซอยพระองค์ดำ 5 ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น เลขที่ 57/100 ถ.พระองค์ดำ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านเสริมสวยความงามชื่อร้านกุ้งบิวตี้ พบศพหญิงสาวนั่งเสียชีวิตอยู่บนโซฟาสีแดง ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.สุจิตรา ยิบแสงทอง อายุ 50 ปี เป็นชาว จ.นครราชสีมา สภาพศพเริ่มซีดขาวนั่งเปลือยกายไม่สวมใส่เสื้อผ้า มีพัดลมเปิดทิ้งไว้จ่อร่างกาย ใกล้กันพบจานข้าว และน้ำอัดลมที่ถูกเปิดดื่มกินไปแล้ววางอยู่ นอกจากนี้ยังพบกองเลือดปนกับเศษอาเจียนข้างโซฟา แต่ไม่พบร่องรอยการถูกรื้อค้นหรือถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง แพทย์จึงนำร่างส่งนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรเพื่อทำการผ่าชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุที่แน่ชัดอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถาม น.ส.จิตอารี สุดสวาท อายุ 45 ปี เพื่อนบ้านที่มาพบศพคนแรกให้การว่า น.ส.สุจิตรา ยิบแสงทอง ผู้เสียชีวิต ได้มาเช่าห้องเปิดร้านเสริมสวยความงามเพียงลำพังมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ผู้เสียชีวิตมักชอบดื่มสุราอยู่เป็นประจำ ประกอบกับระยะนี้มีอาการป่วยกระเสาะกระแสะ ตนเห็นว่าได้ไปพบแพทย์ฉีดยาจำนวน 2 เข็ม ด้วยความเป็นห่วงเมื่อเย็นวานนี้ตนจึงทำข้าวต้มมาให้กิน เห็น น.ส.สุจิตราปิดร้านไปเวลา 22.000 น. แต่เช้าของวันนี้ไม่เห็นลุกมาเปิดร้านเสริมสวยตามปกติจึงได้เดินไปดูก็พบว่าประตูเหล็กหน้าร้านยังปิดอยู่แต่ไม่ได้ล็อกจึงแง้มประตูดู พร้อมตะโกนเรียกหลายครั้งก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปดูก็พบว่า น.ส.สุจิตรา นั่งเปลือยกายเสียชีวิตบนโซฟาแล้ว ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาตรวจสอบดังกล่าว
สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่า น.ส.สุจิตรา ผู้เสียชีวิตอาจเกิดอาการของโรคประจำตัวกำเริบขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวจึงถอดเสื้อผ้านั่งเปลือยกายเผลอหลับไปจนน็อกเสียชีวิต แต่จะต้องรอผลการชันสูตรสาเหตุแห่งการตายจากแพทย์อีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมกับจะติดต่อให้ญาติมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป