น่าน - สภาพอากาศร้อนจัดทำให้เกิดไฟไหม้บ้านเรือนราษฎรวันเดียว 4 หลังรวด เตือนอากาศร้อนจัดเกิดอัคคีภัยง่ายต้องหมั่นตรวจตราสภาพสายไฟที่มีสภาพเก่า
จากสภาพอากาศในจังหวัดน่านที่ร้อนจัดและอบอ้าวทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านถึง 4 หลังคาเรือนในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองน่าน, อบต.เมืองจัง, อบต.ฝายแก้ว กู้ภัย อบจ.น่าน และรถดับเพลิงทหาร มทบ.38 จำนวนกว่า 10 คัน เร่งระดมฉีดพ่นน้ำเพื่อดับไฟที่กำลังโหมไหม้บ้านของนายอุดม สิทธิกัน อายุ 52 ปี เลขที่ 113 หมู่ 8 บ้านน้ำต้วน ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นครึ่งปูน โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 45 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงได้ แต่ก็พบว่าบ้านวอดไปทั้งหลังเหลือเพียงตัวบ้านส่วนที่เป็นคอนกรีตเท่านั้น และยังลุกลามไปติดบ้านข้างเคียงอีก 2 หลัง ได้แก่ บ้านของ นายโสภณ นันท์ชัย บ้านเลขที่ 4 และบ้านของนางวันเพ็ญ นันท์ชัย บ้านเลขที่ 125
ขณะเดียวกันก็ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้ที่บ้านพักข้าราชการ ในหมู่บ้านนิคม ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง เจ้าหน้าที่จึงรีบไปดับไฟ พบว่าเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูน โดยไฟกำลังลุกไหม้ที่ชั้นบนของบ้าน โดยพบนายไพรัช ไชยมงคล ผู้ช่วยหัวหน้าหน่วยควบคุมโรคติดต่อที่นำโดยแมลง พร้อมชาวบ้าน กำลังช่วยกันขนข้าวของ และน้ำไปดับไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งระดมฉีดน้ำจนสามารถควบคุมเพลิงได้ โดยพบว่าบ้านชั้น 2 ได้ไหม้เสียหายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ร.ต.อ.พัฒนเลิศ อินแสง พนักงานสอบสวน สภ.ภูเพียง สันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนมูลค่าความเสียหายบ้านทั้ง 4 หลังคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจมาตรวจสอบเก็บหลักฐานโดยละเอียด พร้อมประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังอัคคีภัยในช่วงหน้าร้อน เนื่องจากมีความเสี่ยงจากสภาพอากาศร้อนและแห้ง
ด้าน นายชนาธิป เสมแย้ม นายอำเภอภูเพียง กล่าวว่า ช่วงนี้สภาพอากาศร้อน อาจส่งผลให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย ควรเพิ่มความระมัดระวังอัคคีภัย โดยตรวจสอบสายไฟฟ้าในอาคารบ้านเรือน ซึ่งมีอายุการใช้งานมากกว่าสิบปี หรืออยู่ในสภาพเก่า เพราะอาจทำให้ไฟช็อตจนเกิดประกายไฟลุกลาม รวมทั้งตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เป็นอย่างดีเพื่อป้องกันอัคคีภัย