พระนครศรีอยุธยา - “พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ” ส่งสำนวน 686 หน้า ให้อัยการตั้ง 8 ข้อหาหนัก เสี่ยเบนซ์ “เจนภพ วีรพร” ขับรถยนต์เบนซ์พุ่งขับชนรถฟอร์ด 2 นักศึกษาปริญญาโทเสียชีวิตคารถ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (26 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุปผา รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าชุดทีมสอบสวน ได้ร่วมกันตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนวน จำนวน 686 หน้า ในคดีที่ นายเจนภพ วีรพร ขับรถยนต์เบนซ์พุ่งชนท้ายรถยนต์ฟอร์ด ทำให้เพลิงไหม้รถทั้งคัน ทำให้ นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และ น.ส.ธันฐภัทร หรือเบนซ์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี 2 นิสิตปริญญาโท มจร.เสียชีวิต โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย พร้อมทีมทนายความเข้าร่วมด้วย
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ทางทีมพนักงานสอบสวนได้สอบสวนพยานกว่า 54 ปาก รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อคดี รวมถึงใช้ผู้เชียวชาญทั้งในประเทศ และต่างประเทศในการทำสำนวนของคดีจนสามารถตั้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 8 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และมีผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4.ขับด้วยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของบุคคลอื่น
5.ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 6.เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมาย ว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 7.เป็นผู้ขับขี่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนที่ให้มีการตรวจสอบผู้ขับขี่ตามาตรา 43 ทวิ และ 8.ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุ หรือข้อแก้ตัวอันสมควร
ส่วนทางญาติของผู้เสียหายทั้ง 2 ราย พอใจในการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมั่นใจในกระบวนการทุกขั้นตอน ผู้ต้องหา นายเจนภพ อยู่ระหว่างการประกันตัว
จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศ ได้นำสำนวนทั้งหมดเดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยส่งสำนวนทั้งหมดมอบให้ นายยงยุทธ เกียรติศักดิ์โสภณ อธิบดีอัยการภาค 1 นายกฤษดา โรจนสุวรรณ อัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
นายยงยุทธ กล่าวว่า ทางอัยการสูงสุดได้ให้ตนเองดูแลควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม การทำคดีนี้เน้นเป็นพิเศษเพราะประชาชนให้ความสนใจ และติดตามการทำงานของกระบวนการยุติธรรม ทางอัยการสูงสุดเน้นให้รวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยหลักการเราต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายตามข้อเท็จจริงและให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ขอยืนยัน
นายประยุทธ กล่าวว่า ในชั้นสอบสวนมีการทำสำนวนสอบสวนรวดเร็ว และมีเวลาพอสมควรให้พนักงานอัยการใช้เวลาที่เหลือตามขั้นตอนของกฎหมายพิจารณาคดีอย่างละเอียดถี่ถ้วน คดีนี้ขอเรียนว่า มีอัตราจำคุกสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ตามขั้นตอนของกฎหมาย เราจะสามารถควบคุมได้ทั้งหมด 7 ฝาก ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการฝากที่ 4 ไปเมื่อวันที่ 23 เมษาที่ผ่านมา ซึ่งมีเวลาในการตรวจสำนวนในชั้นของอัยการร่วมเดือนเศษ ทำให้ช้าสุดไม่เกิด 30-40 วัน ต้องแล้วเสร็จในชั้นพิจารณาของอัยการ
