ล้มทั้งยืน! หนุ่มใหญ่เมืองปัวน้ำตาร่วง โดนพายุลูกเห็บถล่มบ้าน-เงินเก็บ เงินกู้สูญหมด(ชมคลิป)

น่าน - หนุ่มใหญ่เมืองปัวแทบเป็นลมล้มทั้งยืน หลังโดนพายุลูกเห็บพัดถล่มบ้านที่ใช้เงินเก็บ-เงินกู้ รวมกว่า 1 ล้านบาทสร้างมานานเป็นปียังไม่เสร็จพังถล่มลงมาทั้งหลัง ฝังทรัพย์สมบัติ ข้าวของเครื่องใช้อยู่ใต้ซาก ครวญไม่มีบ้านอยู่ หมดเนื้อหมดตัวไม่พอ หนี้สินตามมาจนท่วมหัวอีก



วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายพื้นที่ในจังหวัดน่าน และเกิดฟ้าผ่ากลางดึกนับสิบๆ ครั้ง ทำให้วัวชาวบ้าน อ.ภูเพียง ตายไป 18 ตัว หมูในฟาร์มขนาดใหญ่ตายไปอีก 4 ตัว ชักเกร็ง กล้ามเนื้อกระตุก 7 ตัว และมีอาการเซื่องซึมอีกจำนวนมากแล้ว ยังทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับผลกระทบพังเสียหายด้วย

ที่บ้านทุ่งชัย หมู่ที่ 3 ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว จ.น่าน ที่เกิดลมพายุ และฝนลูกเห็บพัดถล่มอย่างหนัก ส่งผลให้บ้านนายอุดม แก้วโก อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 172 หมู่ 3 ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว จ.น่าน ล้มพังถล่มลงมาทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหายทั้งหมด เจ้าของบ้านแทบเป็นลมล้มทั้งยืน เพื่อนบ้านต้องคอยมาปลอบโยน ช่วยเหลือให้กำลังใจ

นายอุดม แก้วโก เจ้าของบ้าน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ขณะที่มีลมพายุฝนตนกำลังไปรับจ้างติดตั้งอะลูมิเนียม และกระจก เมื่อกลับมาบ้านหลังพายุสงบถึงกับเข่าอ่อน เห็นบ้านทั้งหลังพังถล่มลงมา ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องครัว เครื่องนอน เสื้อผ้า อยู่ใต้ซากหลังคาหมดไม่สามารถเข้าไปเก็บออกมาได้เลย โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีคนในครอบครัวอยู่ในบ้าน

นายอุดมบอกว่า บ้านหลังนี้ใช้เวลาสร้างกว่า 1 ปียังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากไม่มีเงินก้อน ตนต้องใช้เงินเก็บกว่า 3 แสนบาท และเงินกู้ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. อีกกว่า 8 แสนบาทมาทยอยปลูกสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยกับลูกชายอีก 2 คน

“ตอนนี้นอกจากจะไม่มีบ้านอยู่แล้ว ยังต้องเป็นหนี้สิน หมดเนื้อหมดตัว รวมทั้งอุปกรณ์ทำมาหากิน ทั้งกระจกและอะลูมิเนียมที่ขอเครดิตร้านค้ามามูลค่ากว่า 5 หมื่นบาทเพื่อจะนำไปรับจ้างติดตั้งให้กับลูกค้าแล้วนำเงินมาชำระคืนทีหลัง ก็แตกหักเสียหายทั้งหมด ทำให้นอกจากจะไม่มีของไปติดตั้งให้ลูกค้าแล้ว ยังต้องเป็นหนี้กับทางร้านวัสดุอีกด้วย”

นายอุดมบอกว่า ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร และเพื่อความปลอดภัยต้องรอให้ทางส่วนราชการอนุญาตให้เข้าไปในบ้านได้เพื่อเก็บของใช้บางส่วนออกมา อย่างไรก็ตามเตรียมขอเจรจากับทางธนาคารเพื่อขอผ่อนผันการผ่อนชำระและดอกเบี้ยหนี้เงินกู้ และรอการช่วยเหลือจากทางส่วนราชการ

นางชาลินี อินทรส อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 3 ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว จ.น่าน เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เล่าถึงเหตุการณ์ที่เห็นบ้านของนายอุดมล้มพังทั้งหลังว่า ในเสี้ยวนาทีที่พายุพัดรุนแรง และบ้านของเพื่อนบ้านเริ่มต้านทานแรงลมไม่ไหวจนพังครืนลงมา และรู้สึกตกใจมาก รีบเรียกคนในครอบครัวให้เข้าหลบอยู่แต่ในบ้าน

ด้านนายสมาน วังแสง นายก อบต.เจดีย์ชัย พร้อมด้วยนายถวิล มีบุญ ผู้ใหญ่บ้านทุ่งชัย เร่งเข้าสำรวจความเสียหายเพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

ขณะเดียวกันยังมีรายงานความเสียหายจากพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลพระพุทธบาท อ.เชียงกลาง มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายรวม 54 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตรเสียหาย 14 แปลง รวมถึงเกิดเหตุฟ้าผ่าวัวของนายผดุง เพชรดิน อายุ 53 ปี เจ้าของไร่นิธากร ม.11 ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง จ.น่าน ตายยกฝูง จำนวน 18 ตัว มูลค่ากว่า 5 แสนบาท, ฟ้าผ่าฟาร์มหมูขุนของนายทูล นุสุภะ อายุ 66 ปี กำนันตำบลท่าน้าว บ้านหนองรัง ต.ท่าน้าว อ.ภูเพียง จ.น่าน มีหมูตาย 4 ตัว และได้รับบาดเจ็บอีก 7 ตัวดังกล่าว