ลำปาง - ผู้ว่าฯ ลำปาง เรียกประชุมหัวหน้าส่วน และผู้เกี่ยวข้องการป้องกันปัญหาตัดไม้ทำลายป่า-ลอบเผา สั่งจับคนเข้าป่าตรวจฉี่ทุกรายไม่มีเว้น หลังพบยังมีคนลอบรุก-ลอบเผาป่าต่อเนื่อง แถมส่วนใหญ่พัวพันกับยาเสพติด
วันนี้ (25 เม.ย.) นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนและข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและการจุดไฟเผาป่า ที่ห้องประชุมอาลัมภางค์ ศาลากลางจังหวัดลำปาง หลังพบมีการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และการจัดไฟเผาป่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหามลพิษหมอกควันส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
นายสามารถกล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์จะดีกว่าปีที่ผ่านมา และดีกว่าหลายจังหวัด แต่ก็ยังเกิดเหตุอยู่ต่อเนื่อง จากการตรวจสอบก็พบว่าคนที่เข้าไปหาของป่า ล่าสัตว์ ตัดไม้ ส่วนใหญ่จะเสพยาบ้า ที่ผ่านมาแม้จะมีการตั้งรางวัลนำจับสูงถึงรายละ 50,000 บาทก็ไม่สามารถจับตัวได้ แม้แต่การขุดเจาะถนนทางเข้าป่าก็พบว่ามีการลักลอบเผาป่าเกิดขึ้นแทน
ดังนั้น จำเป็นต้องใช้มาตรการใหม่ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ที่ออกลาดตระเวณพกอุปกรณ์ในการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก ป.ป.ส.มาแล้ว 500 ชุด และจะแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 18 ฐาน เวลาออกลาดตระเวนพบบุคคลที่จะเข้าไปหาของป่า ตกเบ็ดหาปลา หรือเข้าไปทำอะไรในป่าก็แล้วแต่ จะต้องถูกตรวจปัสสาวะทุกคน
“หากพบคนที่มีปัสสาวะสีม่วงให้แจ้งมายังผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อจะได้นำตัวมาทำการบำบัดส่วนผู้ที่จับกุมตัวผู้เสพสารเสพติดได้ จะให้รางวัลรายละ 1,000 บาททันที”
ส่วนแผนในระยะยาวจะเร่งให้ดำเนินโครงการการ 1 หมู่บ้าน 1 ป่าชุมชนให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ล่าสุดทางป่าไม้ได้อนุมัติพื้นที่ให้เป็นป่าชุมชนเดือนละประมาณ 20,000ไร่ รวม 425,610 ไร่แล้ว ถือว่าจังหวัดลำปางมีป่าชุมชนมากที่สุดอันดับหนึ่งของประเทศ ณ เวลานี้
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมได้มีการมอบอุปกรณ์ตรวจหาสารเสพติด และถุงมือให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำฐานต่างๆ ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนของจังหวัดลำปางได้มอบเครื่องเป่าลมให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อมอบต่อให้กลุ่มจิตอาสาดับไฟป่าให้นำไปใช้ทำแนวกันไฟต่อไป