นครปฐม - ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครบรอบ 411 ปี
วันนี้ (25 เม.ย.) ที่ศาลากองอำนวยการ องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ จุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย หน้าพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ครบรอบ 411 ปี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ กลุ่มพลังมวลชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ เพื่อแสดงความจงรักภักดี ความกตัญญูกตเวทิตาคุณ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติ ทรงเป็นพระวีรมหากษัตริย์ประกอบพระวีรกรรมกอบกู้เอกราชของชาติ ทรงผดุงความเป็นไท ทรงปกป้องรักษาแผ่นดินแห่งสยามประเทศให้รอดพ้นภัยจากอริราชศัตรู ทรงประสาทประสิทธิ์อิสรภาพเพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้ดำรงชีวิตด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรี และความร่มเย็นผาสุก
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทร์ เมืองพิษณุโลก เมื่อปีพุทธศักราช 2098 พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศ มีพระอัจฉริยภาพ พระฝีพระหัตถ์ในทางการรบ และเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิด ทรงตรากตรำพระวรกายในการทำศึกสงครามตลอดพระชนมชีพของพระองค์ โดยมิได้ว่างเว้นนับตั้งแต่พระชนมายุ 16 พรรษา ทรงสามารถขับไล่กองทัพพระยาจีนจันตุจนแตกพ่ายไป และในวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา แห่งพม่า จนได้รับชัยชนะ ถือเป็นกลยุทธ์ที่นับว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ เป็นยอดแห่งชัยมงคล และเป็นครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ชาติไทย
นอกจากนี้ ยังเป็นวีรกรรมครั้งสำคัญที่ทำให้พระเกียรติยศของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นที่เลื่องลือไปไกล เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ชาตินักรบอย่างแท้จริง เป็นผู้นำที่กล้าหาญ และมีฝีมือการรบที่เก่งกาจจึงทำให้ทรงรบชนะมาโดยตลอด และยังเป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าไม่มีข้าศึกใดกล้ายกทัพมารุกรานไทยนานถึง 150 ปี