แม่ฮ่องสอน - ตำรวจ ทหาร อส.ผนึกกำลังไล่จับกุมอดีตทหารพรานตัวการใหญ่ค้ายาเสพติดในเขตอำเภอขุนยวม กว่าจะล้อมจับได้เป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะผู้ต้องหามีความเชี่ยวชาญในการหลบซ่อน แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น
นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอขุนยวม นำกำลัง อส.ร่วมกับ ร.อ.ชุมพล อินตา ผบ.ร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 3605 กรมทหารพรานที่ 36 เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 15/3 หมู่ที่ 3 บ้านหางปอน ตำบลเมืองปอน อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังสืบทราบว่า นายอับดุลเลาะ หรือเอ๋ ใสกระจ่าง อดีตทหารพรานที่หลบหนีการจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ 3/2558 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 โดย ร.ต.ท.พลชัย อิ่นคำ พนักงานสอบสวน สภ.ขุนยวม เป็นผู้ร้องขอ มีความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)
ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการปิดล้อมจับกุมตัว นายอับดุลเลาะ หรือเอ๋ ใสกระจ่าง ได้ไหวตัวทันเห็นเจ้าหน้าที่ก่อนจึงกระโดดหนีลงทางหน้าต่างวิ่งหนีไปพร้อมกับกระเป๋าซึ่งได้บรรจุยาบ้าไว้ภายใน และอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน ในขณะที่วิ่งหลบหนี นายอับดุลเลาะ ได้โยนกระเป๋าทิ้ง แล้ววิ่งไปซ่อนตัวในพงหญ้าห่างจากหมู่บ้านประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมเพื่อให้ออกมามอบตัว แต่นายอับดุลเลาะ ไม่ยอมออกมามอบตัวตามที่เจ้าหน้าที่ได้ตะโกนเรียก ใช้เวลาปิดล้อมประมาณ 7 ชั่วโมง นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอขุนยวม ซึ่งบัญชาการอยู่ใช้แผนใหม่ตัดสินใจทำการจุดไฟเผาพงหญ้า
ต่อมา นายอับดุลเลาะ ทนความร้อนไม่ไหวจึงได้วิ่งฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่พร้อมกับอาวุธปืนลูกซอง เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ให้นายอับดุลเลาะ หยุดวิ่ง และมอบตัว แต่นายอับดุลเลาะ กลับวิ่งหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยจู่โจมกองร้อย ตชด.ที่ 336 และหน่วยสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำโดย พ.ต.อ.สุริยง วุฒิ ผกก. ออกติดตามอย่างกระชั้นชิด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พบนายอับดุลเลาะ ลงไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่ากล้วย จึงได้เข้าจับกุมตัวพร้อมอาวุธปืนลูกซอง โดยนายอับดุลเลาะ ไม่ได้ต่อสู้ และขัดขืนแต่อย่างใด และนำตัวไปตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลขุนยวม พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุนยวม เพื่อดำเนินคดี พร้อมยาบ้า จำนวน 1,600 เม็ด และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
สำหรับเงินหมุนเวียนในการซื้อขายยาบ้าครั้งนี้นายอับดุลเลาะ กล่าวว่า มีประมาณ 100,000 บาท
สำหรับการปิดล้อมจับกุมตัวนายอับดุลเลาะ ในครั้งนี้ นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอขุนยวม กล่าวว่า เรากระทำอย่างละมุนละม่อมโดยมนุษยธรรม นับว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้วจึงสามารถจับกุมตัวได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อ เนื่องจากครั้งที่ผ่านมา เราสามารถยึดปืน M16 ได้ 1 กระบอก และอาวุธปืนสั้นอีก 1 กระบอก พร้อมทำการตรวจยึดบ้านอีก 1 หลัง ซึ่งสร้างด้วยไม้สัก แต่เขาก็สามารถหลบหนีไปได้
นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอขุนยวม นำกำลัง อส.ร่วมกับ ร.อ.ชุมพล อินตา ผบ.ร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 3605 กรมทหารพรานที่ 36 เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 15/3 หมู่ที่ 3 บ้านหางปอน ตำบลเมืองปอน อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังสืบทราบว่า นายอับดุลเลาะ หรือเอ๋ ใสกระจ่าง อดีตทหารพรานที่หลบหนีการจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ 3/2558 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 โดย ร.ต.ท.พลชัย อิ่นคำ พนักงานสอบสวน สภ.ขุนยวม เป็นผู้ร้องขอ มีความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)
ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการปิดล้อมจับกุมตัว นายอับดุลเลาะ หรือเอ๋ ใสกระจ่าง ได้ไหวตัวทันเห็นเจ้าหน้าที่ก่อนจึงกระโดดหนีลงทางหน้าต่างวิ่งหนีไปพร้อมกับกระเป๋าซึ่งได้บรรจุยาบ้าไว้ภายใน และอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน ในขณะที่วิ่งหลบหนี นายอับดุลเลาะ ได้โยนกระเป๋าทิ้ง แล้ววิ่งไปซ่อนตัวในพงหญ้าห่างจากหมู่บ้านประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมเพื่อให้ออกมามอบตัว แต่นายอับดุลเลาะ ไม่ยอมออกมามอบตัวตามที่เจ้าหน้าที่ได้ตะโกนเรียก ใช้เวลาปิดล้อมประมาณ 7 ชั่วโมง นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอขุนยวม ซึ่งบัญชาการอยู่ใช้แผนใหม่ตัดสินใจทำการจุดไฟเผาพงหญ้า
ต่อมา นายอับดุลเลาะ ทนความร้อนไม่ไหวจึงได้วิ่งฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่พร้อมกับอาวุธปืนลูกซอง เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ให้นายอับดุลเลาะ หยุดวิ่ง และมอบตัว แต่นายอับดุลเลาะ กลับวิ่งหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยจู่โจมกองร้อย ตชด.ที่ 336 และหน่วยสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำโดย พ.ต.อ.สุริยง วุฒิ ผกก. ออกติดตามอย่างกระชั้นชิด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พบนายอับดุลเลาะ ลงไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่ากล้วย จึงได้เข้าจับกุมตัวพร้อมอาวุธปืนลูกซอง โดยนายอับดุลเลาะ ไม่ได้ต่อสู้ และขัดขืนแต่อย่างใด และนำตัวไปตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลขุนยวม พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุนยวม เพื่อดำเนินคดี พร้อมยาบ้า จำนวน 1,600 เม็ด และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
สำหรับเงินหมุนเวียนในการซื้อขายยาบ้าครั้งนี้นายอับดุลเลาะ กล่าวว่า มีประมาณ 100,000 บาท
สำหรับการปิดล้อมจับกุมตัวนายอับดุลเลาะ ในครั้งนี้ นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอขุนยวม กล่าวว่า เรากระทำอย่างละมุนละม่อมโดยมนุษยธรรม นับว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้วจึงสามารถจับกุมตัวได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อ เนื่องจากครั้งที่ผ่านมา เราสามารถยึดปืน M16 ได้ 1 กระบอก และอาวุธปืนสั้นอีก 1 กระบอก พร้อมทำการตรวจยึดบ้านอีก 1 หลัง ซึ่งสร้างด้วยไม้สัก แต่เขาก็สามารถหลบหนีไปได้