เชียงใหม่ - หมอกควันไฟป่าคลุมเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลงจนเกือบต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ระดมพ่นละอองน้ำใกล้เครื่องตรวจวัด แต่ผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค 8 จว.ภาคเหนือมีมากเกือบ 3 หมื่นคน ช่วงเกือบ 2 เดือนมานี้ยอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 3 แสนคนแล้ว
วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุมตัวเมืองเชียงใหม่เข้าสู่วันที่ 6 ติดต่อกัน เช้านี้เริ่มดีขึ้น หลังจากวานนี้ (21 เม.ย.) เทศบาลนครเชียงใหม่ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง นำหุ่นยนต์พ่นละอองน้ำแรงดันสูงมาฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่อยู่ใกล้กับสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ บริเวณโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และจังหวัดฯ ได้ประกาศมาตรฐานเข้มงวดการเผาอีกครั้งตั้งแต่ค่ำวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งค่ามลพิษในอากาศเช้านี้ลดลงกว่าทุกวันที่ผ่านมา แต่ยังสูงกว่าค่ามาตรฐานเล็กน้อย โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ บริเวณโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ใจกลางเมืองเชียงใหม่ วัดค่าได้ 127 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีหมอกควันไฟป่าปกคลุมเหนือท้องฟ้าโดยทั่วไปอยู่ ประชาชนที่อยู่นอกบ้านและเดินทางไปทำงานบางรายยังต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน
ด้านสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่าช่วงสัปดาห์ล่าสุดจากโรงพยาบาลชุมชน 89 แห่ง ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ว่า มีผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรครวมมากกว่า 28,351 คน แยกเป็นผู้ป่วยจากโรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน 14,400 คน โรคระบบทางเดินหายใจ 11,376 คน โรคผิวหนังอับเสบ 1,472 คน โรคตาอับเสบ 1,103 คน
และตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอบบนมีจำนวนผู้ป่วยสะสมที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันกว่า 3 แสนคนแล้ว
