อุตรดิตถ์ - เจ้าหน้าที่พร้อมชาวลับแลระดมกำลังกันสกัดไฟป่าลามไหม้สวนทุเรียนหลง-หลินลับแล รวมถึงลางสาด-ลองกอง กันแบบข้ามคืน จนสามารถคุบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่ออีก 2-3 วัน พบสวนผลไม้วอดเป็นเถ้าถ่านไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ แถมศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปบน “ม่อนน้ำจำ” วอดไปด้วย
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีไฟป่าโหมไหม้สวนทุเรียน ลางสาด ลองกองของชาวบ้าน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซ้ำเป็นรอบสองตั้งแต่วานนี้ (19 เม.ย.) ว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 02.00 น.เศษที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ได้ช่วยกันสกัดจนควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ต้องวางกำลังคอยดับไฟที่ไหม้ตามขอนไม้ คาดว่าใช้เวลาอีก 2-3 วันจึงจะกลับสู่ภาวะปกติ
นายดำเนิน เชียงพันธุ์ ชาวสวน ม.7 ในฐานะอาสาสมัครเครือข่ายแจ้งเตือนภัยธรณีพิบัติ กรมทรัพยากรธรณี ประจำตำบลแม่พูล กล่าวว่า จากการประมาณการไฟป่าได้ไหม้สวนทุเรียนและลองกองของเกษตรกร ในพื้นที่ห้วยโป่ง ม.11 ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้ขยายวงกว้างเข้าไปยังพื้นที่ ม.2, ม.7 และ ม.10 เป็นรัศมีประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร กินพื้นที่ซึ่งเป็นสวนผลไม้ ประมาณ 500 ไร่ โดยเฉพาะทุเรียนหลง-หลินลับแล ที่ใกล้จะถึงเวลาตัดผลผลิตออกจำหน่าย
แต่สิ่งที่ชาวบ้านสลดใจมากก็คือ ไฟป่าได้ลุกไหม้ศาลาสำหรับประดิษฐานพระพุทธ ศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และเป็นสถานที่จุดบั้งไฟเพื่อขอฝนที่ตั้งอยู่จุดสูงสุดของม่อนน้ำจำ ถูกไฟป่าเผาวอดหมด เหลือเพียงองค์พระพุทธรูปที่ตั้งเหลืออยู่กลางซากหักพังของศาลา หลังจากสถานการณ์ไฟป่าสงบแล้วก็คงจะมีการประชุมกรรมการหมู่บ้านและจะรวบรวมเงินจากชาวบ้านเพื่อทำการบูรณะต่อไป
วันเดียวกันที่ศูนย์ประสานงานรวมน้ำใจช่วยเหลือไฟป่า ได้มีภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปได้เดินทางนำน้ำดื่มเครื่องดื่มและข้าวสารมามอบให้แก่ตัวแทนชาวบ้านผามูบ เพื่อแปรรูปอาหารเป็นเสบียงให้แก่เจ้าหน้าที่ และชาวสวนที่ต้องเข้าทำการควบคุมไฟป่า ขณะนี้ทางชาวบ้านและเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าไว้ได้แล้ว แต่ก็ยังต้องส่งกำลังคนขึ้นไปบนภูเขา เพื่อที่จะทำการดับไฟที่ไหม้ติดอยู่กับขอนไม้ให้ดับให้หมดก่อน
ด้านนายจรูญ ปัญญายงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่พูล ได้จัดเจ้าหน้าที่มาทำการรับเรื่องขอความช่วยเหลือจากชาวสวนที่ถูกไฟไหม้พืชผลเสียหายด้วยเช่นกัน
