สุรินทร์ /ศรีสะเกษ - พายุถล่ม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รอบ 2 กับอีก 2 อำเภอ บ้านพัง 167 หลัง พิษพายุฝนตกหนักทำให้รถชนกัน 7 คันและตกถนน 2 คัน ส่วนเขตอำเภอสนม จ.สุรินทร์ บ้านเรือน ยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือกได้รับความเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน
จากสภาพอากาศที่ร้อนระอุต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนจนถึงขณะนี้ พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2559 ในพื้นที่ อ.จอมพระ อ.ศีขรภูมิ และ อ.สนม ได้เกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ฝนตก และมีลูกเห็บตกลงมา โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สนมพายุฤดูร้อนถล่มอย่างหนัก แรงลมได้พัดเอาหลังคาบ้านเรือนของประชาชน ที่บ้านหนองเหล็ก, บ้านศรีสำโรง, บ้านนายม ต.แคน อ.สนมบ้านเรือน เสียหาย 31 หลัง (ในจำนวนนี้เสียหายมาก 9 หลังคาเรือน ยุ้งฉางเสียหาย 6 แห่ง แรงลมพัดเอาต้นไม้ทับ รถยนต์ 2 คัน โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
องค์การบริหารส่วนตำบลแคน (อบต.) และอำเภอสนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสุรินทร์ได้เข้าดำเนินการ เข้าสำรวจและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้
ขณะที่ช่วงใกล้ค่ำวันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดมีพายุฝนตกอย่างหนักในเขต 3 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษประกอบด้วย อ.ภูสิงห์ อ.อุทุมพรพิสัย และ อ.ยางชุมน้อย ซึ่งปรากฏว่าพายุฝนที่โหมกระหน่ำอย่างหนักและลมกระโชกอย่างรุนแรงได้ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านในเขต ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ บ้านเรือนชาวบ้านโดนพายุพัดพังเสียหาย 47 หลังคาเรือน
อ.ยางชุมน้อยบ้านเรือนพังเสียหาย 7 หมู่บ้าน 35 หลังคาเรือน และ อ.อุทุมพรพิสัย บ้านเรือนของชาวบ้านใน 4 ตำบล คือ ต.ปะอาง ต.แต้ ต.โคกหล่าม และ ต.ตาเกษ บ้านเรือนชาวบ้านโดนลมพายุฝนพัดพังเสียหายรวม 85 หลังคาเรือน ซึ่งส่วนมากแล้วหลังคาบ้านของชาวบ้านจะโดนลมพายุพัดปลิวหายไป รวมแล้วมีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายทั้ง 3 อำเภอจำนวนทั้งสิ้น 167 หลัง
สำหรับ อ.ภูสิงห์ จะโดนลมพายุพัดถล่มถึง 2 รอบในระยะเวลาห่างกันเพียง 24 ชม.เท่านั้น โดยครั้งแรกเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 17 เม.ย. 59 มีบ้านเรือนพังเสียหายรวม 60 หลังคาเรือน นอกจากนี้แล้วพายุที่พัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงยังทำให้เกิดอุบัติเหตุในเขตพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ โดยมีรถยนต์ตกถนนจำนวน 2 คันที่บริเวณประมาณหลัก กม.ที่ 8 ถนนสายศรีสะเกษ-อุทุมพรพิสัย และมีรถชนท้ายกัน 7 คันรวดท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
นายธวัช สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว และได้สั่งการให้นายอำเภอท้องที่ที่เกิดเหตุได้ร่วมกับ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเร่งทำการสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของชาวบ้าน เพื่อจะได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมบ้านเรือนให้ชาวบ้านอย่างเร่งด่วน และเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น ตนได้สั่งการให้ทุกอำเภอที่เกิดเหตุวาตภัยได้นำเอาถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้การช่วยเหลือชาวบ้านโดยด่วนแล้ว