ลำพูน - พบเด็กหญิงสองพี่น้องวัย 4 และ 5 ขวบ หิ้วกระเป๋าหนีออกจากบ้านท่ามกลางความมืดคืนวันสงกรานต์ ชาวบ้านเห็นแจ้งตรวจสอบบอกโดนแม่เลี้ยงสาวใจดำทำร้ายร่างกายตอนพ่อไม่อยู่บ้านเป็นประจำ บางครั้งไม่ให้เด็กอาบน้ำสระผม จนทนไม่ไหวตัดสินใจชวนกันหนี โชคดีพ่อตามเจอ ตำรวจร่วมเคลียร์
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในหมู่บ้านเอื้ออาทร (เหมืองง่า) ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน ว่า มีเด็กผู้หญิง วัย 4 ขวบ และ 5 ขวบ รวม 2 คน หิ้วกระเป๋าหอบเสื้อผ้าหลบหนีออกจากบ้านเมื่อค่ำวันสงกรานต์วานนี้ (13 เม.ย.) จากนั้นเดินมาตามถนนในหมู่บ้านโดยยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ชาวบ้านสอบถามได้ความว่าถูกแม่เลี้ยงตีจนทนไม่ไหว จึงชวนกันสองคนพี่น้องแอบเก็บเสื้อผ้าใส่ถุงแล้วเดินไปเรื่อยๆ ในหมู่บ้านโดยไม่มีจุดหมาย
เมื่อเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่ามีบิดาของเด็กมารับตัวไปแล้วในสภาพที่เด็กร้องไห้หวาดกลัวไม่อยากกลับ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 101 ผ่านห้องศูนย์วิทยุจามเทวี พร้อมด้วยนายชยพล พรพิริยะวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.เหมืองง่า เข้าสอบถามข้อเท็จจริง
เบื้องต้นจากการสอบถามเด็กหญิงใหญ่ และเด็กหญิงน้อย (นามสมมติ) อายุ 4 และ 5 ขวบ สองคนพี่น้องซึ่งอยู่ในอาการหวาดกลัว ให้การว่า เวลาพ่อไปทำงานไม่อยู่บ้าน ถูกแม่เลี้ยงทุบตีบ่อยๆ เช่น ใช้มือตีหลังบ้าง ตบหน้าบ้าง เอาไม้ตีบ้าง หลายครั้งติดต่อกัน บางครั้งก็ใช้เครื่องแต่งหน้าถูหน้าทาหน้าไปทั่วจนอายเพื่อนๆ แต่เมื่อถามต่อหน้าบิดาเด็กไม่กล้าตอบและมีอาการหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแยกเด็กออกไปสอบถามต่างหาก ซึ่งก็ให้การตรงกับที่ชาวบ้านแจ้งมาตามรายละเอียดข้างต้น
ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงเล่าว่า แม่เด็กหญิงทั้ง 2 คนเสียชีวิตไปกว่า 3 ปีแล้ว 2 ปีต่อมาพ่อของเด็กได้ภรรยาใหม่ซึ่งเป็นชาวเขามีภูมิลำเนาเดิมอยู่ อ.อมก๋อย ที่ทำงานขายขนมที่ตลาดหนองดอก เขตเทศบาลเมืองลำพูน แรกๆ ก็ดีแต่หลายเดือนมานี้แม่เลี้ยงคนนี้ได้ตีเด็กบ่อยๆ เพราะได้ยินเสียงร้องไห้ประจำ และเคยพบเด็กมีร่องรอยบาดแผลเหมือนถูกทำร้ายร่างกาย แต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง และทราบจากคุณครูที่โรงเรียนว่าบางทีเด็กไม่ได้อาบน้ำสระผม ทำให้ตัวเหนียว และเหม็นติดตัว คุณครูจึงจัดการอาบน้ำสระผมให้บ่อยๆ นอกจากนั้นยังทราบว่าเด็กไม่ได้กินข้าวบ่อยๆ ชาวบ้านแถวนั้นก็แอบแบ่งปันข้าวและขนมให้บ้าง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางสาวมึน อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงว่า ได้ทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยงจริงมั้ย ซึ่งนางมึนกล่าวว่า ตนเป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ มาอยู่กินกับพ่อของเด็กได้ 2 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเด็กแต่อย่างใด แต่ตนก็จะไม่อยู่ที่นี่แล้วจะกลับบ้านที่บนดอยจะได้จบเรื่อง
ด้านนายลา บิดาของเด็กทั้งสองคนซึ่งเพิ่งกลับจากที่ทำงาน กล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะเคยพูดคุยกับแฟนแล้วว่ามีอะไรก็ค่อยคุยกัน อย่าทำร้ายลูกของตน ตนต้องไปทำงานแต่เช้ากว่าจะกลับก็ค่ำมืด ยอมรับว่าตนไม่มีเวลาให้ลูกจริงๆ หากแฟนทำร้ายลูกจริงๆ ตนก็คงต้องคิดใหม่อีกครั้งหากเขาจะกลับบ้านเขาตนก็ไม่ว่าอะไร ให้จบๆ กันไป และคงต้องหาวิธีเลี้ยงลูกใหม่ เพราะตนต้องทำงาน ส่วนลูกก็อยู่ในช่วงปิดเทอม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ และได้มีชาวบ้านใกล้เคียง ซึ่งมีความสนิทสนมกับเด็กทั้งสองคนดีขออาสารับเด็กทั้งสองไปดูแลชั่วคราว สร้างความดีใจแก่เด็กทั้งสองคน ส่วนบิดาก็อนุญาตให้ลูกทั้ง 2 คนไปพักกับเพื่อนบ้านด้วยแต่โดยดี