ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จักษุแพทย์ ม.เชียงใหม่ เตือนประชาชนใช้น้ำสะอาดเล่นสงกรานต์ รวมทั้งงดใช้ปืนฉีดน้ำ และใส่คอนแท็กต์เลนส์เล่นน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดกับดวงตา ทั้งเยื่อบุตาอักเสบ และกระจกตาติดเชื้อ ชี้รุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดได้
อาจารย์แพทย์หญิงลินดา หรรษภิญโญ อาจารย์ประจำภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ประเพณีสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมที่งดงามคู่ชาวไทยมายาวนาน มีการทำบุญเข้าวัด ฟังเทศน์ฟังธรรม สรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นวันครอบครัวพบปะสังสรรค์ในหมู่ญาติมิตร ในอดีตมีการเล่นสาดน้ำโดยการปะพรมหรือใช้ขันเล็กๆ รดน้ำใส่กันเพื่อคลายร้อน แต่ปัจจุบันมีการเล่นสาดน้ำที่เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก และดวงตามักเป็นอวัยวะที่มักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งจากการสาดน้ำที่รุนแรง
ดังนั้น น้ำไม่สะอาดจึงเป็นอันตรายต่อดวงตาเป็นอย่างมาก เสี่ยงต่อเยื่อบุตาอักเสบจากการติดเชื้อ เกิดแผลติดเชื้อที่กระจกตา การติดเชื้อหรือการบาดเจ็บของดวงตาที่เกิดจากการเล่นน้ำสงกรานต์ อาจรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้
อาจารย์แพทย์หญิงลินดาระบุว่า การเล่นน้ำสงกรานต์เพื่อให้ปลอดภัยต่อดวงตาทั้งตัวเองและคนรอบข้าง ควรใช้น้ำที่สะอาดในการเล่นน้ำ ปราศจากสิ่งปนเปื้อนรวมทั้งแป้งดินสอพอง เพราะน้ำที่ไม่สะอาดอาจมีเชื้อโรคทำให้เกิดการติดเชื้อของเปลือกตา เยื่อบุตา หรือหากรุนแรง อาจเกิดแผลที่กระจกตาและทำให้ตาบอดได้
ขณะเดียวกัน ไม่ควรใช้ปืนฉีดน้ำ หรือกระบอกฉีดน้ำ เนื่องจากดวงตาทั้งภายนอกและภายใน อาจได้รับอันตรายโดยตรงจากแรงกระแทกของน้ำ ขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการใส่คอนแท็กต์เลนส์เล่นน้ำ เนื่องจากหากมีสิ่งสกปรกเข้าตาจะทำให้ติดค้างบริเวณตาได้ง่ายขึ้น และเกิดการติดเชื้อของเยื่อบุตาหรือแผลที่กระจกตาตามมา
ทั้งนี้ แนะนำว่าควรใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดด และช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจกระแทกตาได้ หากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาไม่ควรขยี้ตา เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยถลอกที่กระจกตา และเกิดการติดเชื้อที่กระจกตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาด หรือลืมตาในน้ำสะอาดและกลอกตาในน้ำไปมา เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออก หากมีอาการผิดปกติ เช่น แสบตา ตาแดง มีขี้ตา น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ ตามัวลง ควรพบจักษุแพทย์ใกล้บ้าน ไม่ควรซื้อยาหยอดเอง เพราะมีบางภาวะที่อาจทำให้ตาบอดได้หากรักษาล่าช้า