กาญจนบุรี - ชายวัย 60 ปี สติไม่ดีเดินข้ามถนนถูกกระบะชนดับคาที่ อีกราย 2 แรงงานชาวพม่า ขับขี่รถจักรยานยนต์ถูกกระบะพุ่งชนดับอนาถทั้งคู่ รวมเสียชีวิตทั้งหมด 3 ศพ ส่วนคนขับทิ้งรถหลบหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 03.15 น. วันนี้ (11 เม.ย.) ร.ต.อ.เสกสรรค์ รัมมะอรรถ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนแสงชูโต หมู่ 4 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 และมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ผค 1866 นครปฐม จอดอยู่ มีนายอานนท์ มงคลวรรณกร อายุ 20 ปี คนขับยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ ห่างไปประมาณ 10 เมตร พบศพชายสูงอายุนอนเสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายสะอาด ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 60 ปี เป็นชาวตำบลวังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังจากคณะแพทย์ชันสูตรพลิกศพแล้วเสร็จจึงนำไปไว้ที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 พร้อมติดตามหาญาติให้มาดู และรับศพไปทำพิธีทางศาสนา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนสติไม่สมประกอบ ยามค่ำคืนมักชอบเดินวนเวียนอยู่ที่บริเวณดังกล่าวอยู่เป็นประจำ ซึ่งทางญาติของผู้เสียชีวิตก็ทราบดี ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายอานนท์ ขับรถกระบะบรรทุกปลามาจากจังหวัดชัยนาท และกำลังมุ่งหน้าไปส่งปลาที่จังหวัดนครปฐม เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเวลาดังกล่าวท้องฟ้ายังมืด ผู้เสียชีวิตได้เดินตัดหน้ารถยนต์กระบะอย่างกะทันหันทำให้คนขับเบรกรถไม่ทัน จึงเป็นเหตุทำให้ชนจนเสียชีวิตดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง พร้อมคุมตัวนายอานนท์ ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อุบัติเหตุรายที่ 2 เวลาไล่เลี่ยกัน ขณะที่ นายหม่องอู ไม่มีนามสกุล และนายชิคมิลโทยค อายุ 24 ปี 2 แรงงานชาวพม่า พักอยู่บ้านเลขที่ 230/1 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ หมายเลขทะเบียน กลต 323 กาญจนบุรี ไปตามถนนสายกาญจนบุรี-ด่านมะขามเตี้ย ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ถูกรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บม 4905 กาญจนบุรี พุ่งชนอย่างแรง ทำให้แรงงานชาวพม่าทั้ง 2 ราย กระเด็นตกจากรถจักรยานยนต์เสียชีวิตคาที่ สภาพศพไส้ทะลักทั้ง 2 คน ส่วนคนขับรถยนต์กระบะได้ทิ้งรถแล้วอาศัยความมืดหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป