จันทบุรี - เด็กชายอายุ 16 ปี นำหลอดไฟขึ้นไปติดตั้งเพื่อเตรียมการจัดงานสงกรานต์วัดทองทั่ว แต่ปลายเหล็กที่ติดกับหลอดไฟไปถูกสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เกิดไฟช็อตหงายท้อง คาอยู่บนนั่งร้าน อาการสาหัส ก่อนเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี จะช่วยนำร่างส่งโรงพยาบาลพระเกล้าจันทบุรี ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
วันนี้ (6 เม.ย.59) เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเด็กถูกไฟช็อต บริเวณศาลาการเปรียญข้างเมรุวัดทองทั่ว หมู่ที่ 14 ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้เดินทางมาช่วยในการนำเด็กที่ถูกไฟช็อตส่งโรงพยาบาลให้ด้วย
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า บริเวณศาลาการเปรียญข้างเมรุ กำลังมีการจัดเตรียมสถานที่ และประดับตกแต่งไฟเพื่อเตรียมจัดงานสงกรานต์วัดทองทั่ว ประจำปี 2559 เมื่อตรวจสอบบริเวณนั่งร้านก็พบผู้ถูกไฟช็อตเป็นเด็กชาย นอนไม่ได้สติอยู่บนนั่งร้าน ตรวจสอบพบว่าฝามือทั้ง 2 ข้าง มีรอยไฟไหม้
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องนำเปล และเชือกขึ้นไปมัดผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนำลงมาจากนั่งร้าน หลังเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านช่วยกันประมาณ 15 นาที ก็สามารถนำเด็กชายที่ถูกไฟช็อตลงมาจากนั่งร้านได้สำเร็จ ก่อนที่จะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี อย่างเร่งด่วน ต่อมาทราบชื่อ คือ เด็กชายสิทธิชัย เย็นปลื้ม อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/7 หมู่ที่ 6 ตำบลน้ำเป็น อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง
จากการสอบถาม เด็กชายอดิศักดิ์ วานิชผล อายุ 14 ปี เพื่อนของผู้ที่ถูกไฟช็อต กล่าวว่า ตนเองและเพื่อน 2 คน กำลังมีการติดตั้งไฟสีเพื่อเตรียมการจัดงานสงกรานต์วัดทองทั่ว โดยตนเองจะเป็นผู้ส่งหลอดไฟสีที่มัดด้วยเหล็กส่งให้กับเด็กชายสิทธิชัย ที่อยู่บนนั่งร้าน และในช่วงที่เพื่อนได้นำหลอดไฟขึ้นไปติดตั้งยังราวไฟเหล็กที่มัดอยู่กับหลอดไฟสีปลายเหล็กเกิดไปโดนสายไฟฟ้าแรงสูงทำให้เพื่อนของตนเองถูกไฟช็อตหงายท้องคาอยู่บนนั่งร้าน ก่อนที่ตนเองจะตะโกนให้เพื่อนคนงานและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงช่วยเหลือ
จากนั้นเพื่อนคนงานก็ได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้มาช่วยเหลือเพื่อนของตนเองลงมาจากนั่งร้านและนำตัวส่งโรงพยาบาลดังกล่าว ในเบื้องต้นอาการเพื่อนของตนเองปลอดภัยแล้ว แต่ทางแพทย์ยังคงให้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน 1-2 วัน ก่อนที่จะให้กลับบ้านได้ต่อไป