กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านโล่งใจศาลไม่ให้ประกันตัว “ผญบ.หื่นโหด” ผู้ต้องหาฆ่า “น้องสโนว์” มั่นใจหลักฐานตำรวจ พร้อมติดป้ายเรียกร้องรับโทษประหารชีวิต ด้านพ่อ-แม่น้องสโนว์จุดธูปบอกลูกสาวตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว ขณะที่พยานทยอยให้การเพิ่มต่อตำรวจหลังผู้ใหญ่บ้านถูกจับนอนคุกยาว
ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าจับกุมตัวนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุพยายามข่มขืนและทำร้ายร่างกาย น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ จนเสียชีวิต กระทั่งตำรวจนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคัดค้านการประกันตัว และศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเพื่อความปลอดภัยของพยาน กระทั่งถูกส่งตัวเข้าคุมขังในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามบรรยากาศในหมู่บ้านบ้านโนนเมือง บ้านสีถาน และหมู่บ้านใกล้เคียง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ บรรยากาศภายในหมู่บ้านเริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้งและต่างพากันใช้ชีวิตกันอย่างปกติ ส่วนใหญ่เริ่มคลายความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกหลาน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงลงไปได้ในระดับหนึ่งหลังจากตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายได้แล้ว
โดยชาวบ้านได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทางคดีและลงโทษกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่าชาวบ้านมีการติดป้าย “ข่มขืนต้องรับโทษประหารชีวิต” ที่บริเวณถนนทางเข้าบ้านโนนเมืองตรงจุดเกิดเหตุน้องสโนว์ถูกทำร้ายและกระจายทั่วหมู่บ้าน ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านพักเลขที่ 94 หมู่ที่ 12 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อไปพบกับนายกฤษณ์ และนางลำไย พลประสิทธิ์ พ่อและแม่ของน้องสโนว์ เหยื่อฆาตรกรหื่น โดยวันนี้พ่อ แม่ พี่สาว และบรรดาญาติได้พร้อมใจกันจุดธูปต่อหน้ารูปถ่ายของน้องสโนว์เพื่อบอกกล่าวดวงวิญญาณของน้องสโนว์ที่บ้านพัก ขอให้ดวงวิญญาณของน้องสโนว์สบายใจได้ว่าตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้วซึ่งจะต้องถูกลงโทษและรับกรรมที่ก่อไว้อย่างถึงที่สุดเป็นโทษหนักมากที่สุด พร้อมวอนให้ดวงวิญญาณของสโนว์ช่วยในเรื่องคดีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ให้ลุล่วง
นอกจากนี้ มีชาวบ้านมาเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวพลประสิทธิ์ตลอดทั้งวัน ทำให้คนในครอบครัวมีกำลังใจดีขึ้นกับการต่อสู้คดีครั้งนี้
นางลำไย พลประสิทธิ์ แม่น้องสโนว์ กล่าวว่า ทราบว่าศาลไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหา และถูกส่งตัวไปในเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์แล้ว จึงได้จุดธูปบอกลูกสาวว่าคนที่ทำร้ายได้ถูกจับแล้วและให้สบายใจได้ ซึ่งคนร้ายจะต้องได้รับโทษที่ก่อไว้ตามกฎหมาย น้องสโนว์จะต้องไม่ตายฟรี แม้ยังไม่ได้ตัดสินถึงที่สิ้นสุดทางคดีก็ตาม แต่มั่นในพยานหลักฐานของตำรวจที่จะดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาให้ได้รับโทษสูงสุดจนได้
ด้านนางปิยะธิดา วิชัยผิน อายุ 40 ปี เพื่อนบ้าน ระบุว่า รู้สึกโล่งและดีใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายสักทีและเมื่อทราบว่าศาลไม่ให้ประกันตัว ทันทีที่ทราบข่าวยกมือท่วมหัวเลย เพราะที่ผ่านมาต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะมีลูกสาวเป็นเพื่อนกับสโนว์ ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยใช้เส้นทางเดินทางไปกลับโรงเรียน-บ้านเหมือนกัน กลัวจะเกิดเหตุซ้ำรอยอีก เพราะฆาตกรไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวต่อกฎหมายและบาปกรรมที่ได้กระทำไว้
ตอนนี้โล่งใจไปได้ระดับหนึ่ง ในหมู่บ้านคงจะมีความปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังทราบว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาช่วยดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้านด้วย ยิ่งทำให้อุ่นใจ นอกจากนี้ เท่าที่ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานต่างๆ มากมาย เชื่อมั่นว่านั่นจะเป็นหลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวคนร้ายและนำไปสู่การตัดสินประหารในที่สุด
ขณะที่ พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังนำตัวผู้ต้องหาฝากขังยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งญาติผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์ต่อศาลเพื่อขอประกันตัว แต่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ คดีสะเทือนขวัญ และถือเป็นผู้มีอิทธิพลอาจจะเข้าไปคุกคามข่มขู่พยานและผู้เสียหายได้ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวนายกฤติเดชเข้าไปยังคุมขังในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์
ล่าสุดขณะนี้มีพยานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ได้ทยอยเข้าให้การต่อพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม 2-3 รายแล้ว หลังทราบข่าวว่าศาลไม่ให้ประกันตัวและจากก่อนหน้านี้ไม่กล้าเข้าให้ปากคำ เนื่องจากเกรงกลัวความไม่ปลอดภัย โดยพยานส่วนใหญ่ให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีอย่างมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากจะเสียรูปคดี ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเร่งดำเนินการสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ในขั้นตอนกฎหมายนั้น ตำรวจสามารถฝากขังผู้ต้องหาได้ 7 ครั้ง รวม 84 วัน และในแต่ละครั้งจะฝากขังได้ 12 วัน