เชียงราย - เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งชาวบ้านรอบดอยปุย เชียงราย เร่งระดมช่วยกันดับไฟที่โหมไหม้ดอยเกือบทั้งวันจนสงบ คาดมีคนลอบเผาเพราะพบอุปกรณ์หลายอย่าง รวมป่าเสียกว่า 500 ไร่
วันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่มีสภาพอากาศแห้งแล้งอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้พื้นที่ป่าแม่ปืมที่ 2 (ห้วยพญาเก๊า) หรือที่รู้จักกันดีว่าดอยปุย ติดถนนเชียงราย-ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นเทือกเขาสำคัญที่มีป่าไม้หนาแน่นและอยู่ใกล้เขตเมือง รวมทั้งมีสถานีทวนสัญญานของสถานีโทรทัศน์หลายสถานีอยู่ด้านบน
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 นายปรีชา ทองคำเอี่ยม ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า นำเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจดับไฟป่าเข้าไปดับไฟป่า ซึ่งการดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากไฟโหมลุกไหม้อย่างหนัก และมีเชื้อไฟเป็นวัชพืชในฤดูแล้งจำนวนมาก ไฟจึงได้ลุกไหม้เขตบ้านหัวดอย ม.6 และ ม.12 ต.ท่าสาย อ.เมือง จำนวนหลายจุดและเป็นแนวยาว บางจุดนั้นเป็นภูเขาสูงชันและเป็นหน้าผา ทำให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่ารวมทั้งชาวบ้านกว่า 100 คนต้องระดมกำลังกันดับไฟตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ได้นำเฮลิคอปเตอร์ทำการขึ้นบินและตักน้ำเพื่อนำน้ำจากอ่างพญาเก๊าไปดับไฟป่าด้วย เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานเกือบ 24 ชั่วโมงจึงสามารถดับไฟให้สนิทลงได้ แต่ก็มีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายมากกว่า 500 ไร่ และยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามาจากการลักลอบเผาป่าอย่างแน่นอน เพราะพบหลักฐานบางอย่างเชื่อว่ามาจากการลักลอบเผา และการเกิดไฟป่ากระจายไปในหลายจุดในเวลาใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ ในช่วงเกิดไฟป่าหลายครั้งใน จ.เชียงราย โดยวันก่อนเกิดเหตุไฟป่าพื้นที่ ม.9 ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง เป็นบริเวณกว้างทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องระดมกำลังกันฉีดพ่นน้ำดับไฟโดยใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม พบว่าค่าอากาศใน จ.เชียงราย ไม่เกินมาตรฐานความปลอดภัยเนื่องจากยังมีลมพัดและมีการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่