นครปฐม - สรุปเหตุรถไฟชนรถบัส 2 ชั้น มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นคนขับ คนรถ และผู้โดยสารหญิง 1 ราย บาดเจ็บ 33 ราย ขณะที่ รมช.คมนาคม พร้อมผู้ว่าฯ นครปฐม และเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดนครปฐม เร่งเข้าดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง คาดคนขับไม่คุ้นทาง และไม่ได้ยินหวูด และมองไม่เห็นรถไฟ
วันนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีรถไฟสาย 909 สายกรุงเทพฯ-น้ำตก พุ่งชนรถบัสโดยสารแบบ 2 ชั้น ของบริษัทคุณสมพงศ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 30-0644 นครปฐม ที่กำลังขนนักท่องเที่ยวที่จะไปเกาะเสม็ด เหตุเกิดที่หมู่ 4 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อเวลา 07.30 น.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย ไปเสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 30 คน
ต่อมา หลายหน่วยงานในจังหวัดนครปฐม นำโดย นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายวุฒิชาติ กัลญาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และเข้าเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ โรงพยาบาลห้วยพลู รวมทั้งหมด 33 คน และยืนยันมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย นายนิพล ลดาธนกิจ อายุ 40 ปี คนขับรถบัส น.ส.เยาวภา เสนานุช ยังไม่ทราบอายุ และนายสาโรจน์ กิตติเจริญสินชัย อายุ 62 ปี
นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหลังจากดูกล้องวงจรปิดพบว่า รถบัสคันที่เกิดเหตุกำลังเลี้ยว และข้ามทางรถไฟ และมีการเบรกรถกระบะสีขาวอีกคันที่ขับสวนทางมาฝั่งขวา ซึ่งด้วยความไม่ชินเส้นทางน่าจะไม่ได้มองทางซ้ายมือที่มีรถไฟวิ่งมา โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า รถบัสเปิดเพลงเสียงดังมาตลอดทางคงไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟที่เปิดเตือนมาในทางยาว ซึ่งคนขับได้พยายามเบรกแล้วแต่เป็นระยะกระชั้นชิดจึงทำให้พุ่งชนอย่างแรง ส่วนเรื่องที่กั้นนั้นทราบว่า เมื่อเสร็จสิ้นการก่อสร้างแล้วกำลังจะมีการเปิดให้ใช้งานแต่มาเกิดเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายสมชาย เหมรัตน์ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดนครปฐม ซึ่งได้ร่วมลงพื้นที่ และตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แจ้งว่า ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เรียบร้อยแล้ว และกำลังหาข้อมูลในเหตุการณ์ดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เบื้องต้น กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ส่วนการคาดการณ์สาเหตุถนนดังกล่าวเป็นจุดตัดทางรถไฟ รถโดยสารกำลังพยายามจะข้ามทางเป็นจังหวะเดียวกับที่รถไฟกำลังมา และรถบัสได้ขับผ่านไปในระยะกระชั้นชิดเป็นเหตุให้เกิดการพุ่งชน ส่วนความเสียหายของรถบัสเกิดความเสียหายที่หน้าซ้ายของตัวรถที่ถูกกระแทกกับโบกี้โดยสาร ส่วนการตรวจสอบในส่วนของบวนรถไฟ ทราบเบื้องต้นว่า ตัวโบกี้โดยสารที่ด้านหน้าขบวน และกลางโบกี้ 1123 ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
“ส่วนรางรถไฟฝั่งล่องใต้เกิดเหตุตัวรางรถไฟบิดงอเสียหาย ต้องเปลี่ยนตัวรางเหล็กใหม่ระยะประมาณ 30 เมตร และเปลี่ยนหมุดใหม่ ส่วนฝั่งเข้ากรุงเทพฯ ตัวรางเหล็กบิดงอ เจ้าหน้าที่ต้องดัดแล้วอัดหินตามหมอนรางรถไฟใหม่” นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว
