ปราจีนบุรี- เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ร่วมกันจับกุม 2 คนร้าย ก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน ได้ของกลางจำนวนหลายรายการ สอบสวนประวัติพบคดีค้างเก่าตามหมายจับ และเสพยาบ้าทั้ง 2 ราย
เมื่อเวลา 20.30 น.คืนวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ประโชติ กันหะ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ นายวิชัย สมณี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 299 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และนายวิษณุ สุขวงษ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185/2 หมู่ 3 ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และมีเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสอบประวัติพบคดีค้างเก่าตามหมายจับ และเสพยาบ้าทั้ง 2 ราย
จากการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า นายวิชัย สมณี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีลักทรัพย์ฯ ได้มาพักอาศัยอยู่ในซอยข้างโรงแรมโซเฟีย อ.เมืองปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อยู่บริเวณหน้าบ้านพัก จึงได้แสดงหมายจับ พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักของ นายวิชัย ปรากฏว่า พบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือจำนวนหลายเครื่อง ซึ่งคาดว่าจะเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้รับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิดลักทรัพย์จำนวนหลายรายการ เช่น อาวุธปืน คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ พระเครื่อง กล้องถ่ายรูป และของใช้อีกเป็นจำนวนมาก โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุม และตรวจสอบโทรศัพท์มือถืออยู่นั้น ได้มีเจ้าทุกข์ชื่อ น.ส.กิตติมา กรกำแหง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 19 ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ได้เดินทางมาตามสัญญาณ GPS จากโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกขโมยมา และยังมีผู้เสียหายเดินทางมาเพิ่มเติมอีก 2 ราย และสามารถชี้ตัวผู้ต้องหาได้อย่างถูกต้อง
นายอุดมพันธ์ อินทรโยธา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กลับมาถึงบ้านพัก และพบกับผู้ต้องหาที่เข้ามาลักทรัพย์ และได้พยายามต่อสู้กัน ผู้ต้องหาสวมหมวกไหมพรม ขณะต่อสู้กันหมวกไหมพรมหลุด จึงสามารถจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไปได้ จึงได้เข้าแจ้งความจนสามารถขยายผลจับกุมตัวได้
ด้าน นางพนารัตน์ เตชะสกุลเจริญ เจ้าทุกข์อีกหนึ่งรายที่เข้ามาชี้ตัว จากคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ทราบว่า สิ่งของที่หายไปเป็นปืนพกขนาด .38 ไอแพด และกล้องถ่ายรูป ซึ่งผู้ต้องหาบอกว่าปืนกระบอกนั้นหายไปแล้ว สำหรับทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ทำการลักทรัพย์มานั้นทั้ง 2 คน ได้นำไปขายตามสถานที่ต่างๆ และนำเงินมาแบ่งกัน และซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะพบว่าทั้ง 2 คน เป็นสีม่วง และนายวิชัย นั้นมีเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กล่าวโทษเพิ่มว่า มีเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยของกลางลูกกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 9 นัด ขนาด .22 จำนวน 19 นัด และขนาด .32 จำนวน 7 นัด พร้อมแม็กกระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 1 แม็ก และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต